Radiesse Plus คือสารเติมเต็มในกลุ่ม Radiesse Filler ที่มีองค์ประกอบของ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติของผิว พร้อมผสมสารลดความรู้สึกเจ็บขณะฉีดเพื่อให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายมากขึ้น โดยต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปตรงที่มีความหนืดและความคงตัวสูงกว่า เหมาะกับการปรับรูปหน้าให้มีมิติคมชัด การฉีดเรเดียสจึงเป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและมีความต่อเนื่อง เรเดียสพลัสสามารถอยู่ในชั้นผิวได้ยาวนานโดยเฉลี่ยประมาณ 12–18 เดือน ขึ้นกับตำแหน่งที่ฉีดและปัจจัยเฉพาะบุคคล
สรุปภาพรวมการฉีด Radiesse Plus การทำงาน จุดเด่น และการเลือกคลินิก
- Radiesse Plus เป็นฟิลเลอร์ชนิด Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับการยกกระชับและปรับโครงหน้าให้ดูมีมิติโดยไม่ต้องผ่าตัด
- โครงสร้างของ Radiesse (+) ช่วยฟื้นฟูปริมาตรผิวทันทีหลังฉีด พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและคงอยู่ได้นานเฉลี่ย 12–18 เดือน
- เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีริ้วรอย ความหย่อนคล้อย หรือสูญเสียโครงสร้างผิว เช่น กรอบหน้า ขมับ คาง แก้ม และมือ โดยต้องประเมินโดยแพทย์เฉพาะทางเพื่อความเหมาะสม
- ตำแหน่งที่นิยม ฉีดเรเดียส ได้แก่ ขมับ กรอบหน้า ร่องแก้ม คาง และโหนกแก้ม โดย Radiesse Plus ไม่เหมาะกับบริเวณที่ผิวบาง เช่น ริมฝีปากหรือใต้ตา
- หลังฉีด Radiesse Plus จะเห็นผลเบื้องต้นทันที และเริ่มกระตุ้นคอลลาเจนภายใน 2–4 สัปดาห์ ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน โดยไม่จำเป็นต้องฉีดบ่อยแบบฟิลเลอร์ทั่วไป (Radiesse ฉีดกี่ครั้งจึงขึ้นอยู่กับการประเมินรายบุคคล)
- การดูแลตัวเองหลังฉีดควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด งดกิจกรรมที่เพิ่มการไหลเวียนเลือดมาก เช่น อบไอน้ำ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือออกกำลังกายหนัก เพื่อป้องกันการบวมแดงและช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่
- Radiesse Plus มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจาก US FDA และ CE mark ของยุโรป ไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
- ราคาการฉีด Radiesse Plus โดยทั่วไปเริ่มต้นที่ประมาณ 36,000 บาท/กล่อง (ปริมาณหลังผสม 3–4.5 cc) ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคลที่แพทย์จะเป็นผู้ประเมิน
- ข้อดีของ Radiesse Filler คือให้ผลยาวนาน กระตุ้นคอลลาเจน และปรับรูปหน้าได้ชัดเจนโดยไม่ต้องผ่าตัด ส่วนข้อจำกัดคือไม่เหมาะกับผิวบาง และต้องฉีดโดยแพทย์ที่ชำนาญเพื่อป้องกันผลข้างเคียง
- หากต้องการรักษาด้วย Radiesse Plus ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เช่น The Signature Clinic ซึ่งมีเทคนิคการฉีดที่แม่นยำ ลดความรู้สึกเจ็บ และใช้ผลิตภัณฑ์แท้ที่ได้รับการรับรอง
- The Signature Clinic ให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า พร้อมวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล และดูแลต่อเนื่องในทุกขั้นตอน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
“Radiesse Plus คืออะไร รักษาวิธีไหนให้ได้ผลดี”
Radiesse Plus คืออะไร?
Radiesse Plus เป็นนวัตกรรมสารเติมเต็ม Biostimulator ที่กระตุ้นเซลล์ให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว เพื่อช่วยให้ผิวดูแข็งแรงขึ้น โดย Radiesse Plus มีความคงตัวค่อนข้างสูง สามารถสร้างโครงหน้า สร้างกรอบ เติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ปรับรูปหน้า หน้าได้ดีกว่าสารฉีดกระตุ้นชนิดอื่น ๆ มีส่วนประกอบของ CaHA ที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มในชั้นโครงสร้างผิวชั้นลึก ให้ผลลัพธ์ในระยะยาวมากกว่าหนึ่งปีขึ้นไป ด้วยการใช้ปริมาณยาเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น มีคุณสมบัติ High viscosity ที่ฉีดลงไปบริเวณไหนก็จะคงรูป ไม่เกิดการกระจายตัว และคุณสมบัติ High elasticity มีแรงยกผิวได้สูง ต้านแรงความหย่อนคล้อยได้มากที่สุด ใบหน้าคมดูมีมิติมากขึ้น โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด หรือพักฟื้นหลังทำ มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากผ่านมาตรฐาน อย.อเมริกา (USFDA) อย. ยุโรป (EU FDA) และ ไทย (FDA) เป็นนวัตกรรมที่รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลกอีกด้วย
Radiesse Plus ช่วยเรื่องอะไร?
Radiesse Plus มีความคงรูปตั้งทรงได้ดีมากสามารถช่วยโครงสร้างผิวได้ดี สามารถยกกระชับใบหน้าได้ในทันที ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ยาวนานถึง 2 ปี สามารถฉีดได้ในบริเวณตำแหน่งต่าง ๆ ของร่างกายโดยตำแหน่งยอดฮิต คือ บริเวณกรอบหน้า โหนกแก้ม แนวกราม แนวขากรรไกร บริเวณคาง เพื่อปรับโครงหน้าให้คมชัดมีมิติขึ้น
- ช่วยเพิ่มความคมชัดให้กับโครงสร้างใบหน้า
- ช่วยปรับโครงสร้างใบหน้า กรอบหน้าชัด
- ช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้า
- ช่วยสันกรามให้ดูคมขึ้น ดูเป็นทรง หรือในผู้ชายที่ต้องการให้ใบหน้าดูคมเข้ม
- ช่วยกระตุ้นการสร้างางคอลลาเจน
โปรแกรม Radiesse Plus ทำงานอย่างไร?
โปรแกรม Radiesse Plus เป็นสารเติมเต็มที่มีส่วนประกอบสำคัญที่ผลิตมาจาก CaHA หรือ Calcium Hydroxylapatite ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มเติมเต็มความหนาแน่นชั้นโครงสร้างผิวใหม่ให้แก่ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว โดยเมื่อฉีดตัวยาเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนัง ตัวยาจะเข้าไปเติมเต็มบริเวณที่ถูกฉีดในทันที และสาร CaHA ก็จะเริ่มสร้างโครงสร้างผิวให้มีความหนาแน่นขึ้น ใบหน้าจึงมีความคมชัดขึ้น เนื่องจากตัวยามีคุณสมบัติ High viscosity ไม่เกิดการกระจายตัวไปบริเวณอื่น จึงทำให้มีความคงรูปสูง
จุดเด่นของโปรแกรม Radiesse Plus
- มีคุณสมบัติ High elasticity ที่มีแรงยกผิวได้สูง ต้านแรงความหย่อนคล้อยได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับ Biostimulator ตัวอื่น
- มีคุณสมบัติ High viscosity ไม่เกิดการกระจายตัว มีความคงรูปสูง
- มีส่วนผสมของยาชาหรือ Lidocaine 0.3% ไม่รู้สึกเจ็บขณะทำ
- ยกกระชับโครงหน้าให้ชัดขึ้น ใบหน้าดูคมขึ้นทันที ช่วยยกหน้า ลิฟต์กรอบหน้าให้วีเชป
- ได้รับรองจากมาตรฐานจาก อย.อเมริกา (USFDA) อย. ยุโรป (EU FDA) และ อย.ไทย (FDA)
- ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ยาวนานถึง 2 ปี
Radiesse Plus เหมาะกับใคร?
Radiesse Plus เหมาะกับใคร คือคำถามที่มักเกิดขึ้นกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหรือโครงหน้าขาดความชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งมีการเสื่อมของคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใต้ผิวตามวัย Radiesse (+) จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการทั้งยกกระชับ และฟื้นฟูผิวจากภายในในคราวเดียวกัน
- ผู้ที่ต้องการปรับกรอบหน้าให้ชัดเจนโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ผู้ที่เริ่มมีริ้วรอย ร่องลึกบริเวณแก้ม ข้างจมูก หรือมุมปาก
- ผู้ที่มีเนื้อบริเวณขมับ คาง หรือกรอบหน้าแบน ต้องการเพิ่มวอลลุ่ม
- ผู้ที่เคยฉีด Hyaluronic Acid filler แล้วไม่ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ
- ผู้ที่ต้องการการกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว (Radiesse สารกระตุ้นคอลลาเจน)
Radiesse Plus ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง?
การฉีดเรเดียสไม่ได้เหมาะกับทุกบริเวณของใบหน้า แต่จะเหมาะกับบริเวณที่ต้องการการยกกระชับหรือฟื้นคืนโครงสร้างให้แน่นกระชับอย่างเห็นได้ชัด โดยต้องฉีดในตำแหน่งที่มีเนื้อเพียงพอและปลอดภัยตามข้อบ่งใช้ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
- กรอบหน้า กราม และแนวขากรรไกร
- คาง เพื่อปรับมิติและความยาว
- ขมับ ที่มีลักษณะแฟบหรือมีรอยบุ๋ม
- แก้มส่วนกลาง เพื่อเสริมโหนกแก้มให้เด่นขึ้น
- ร่องแก้ม (Nasolabial fold) และร่องมุมปาก
- มือ (Dorsal Hand) เพื่อเสริมความเต่งตึงของผิว
Radiesse Plus ฉีดกี่วันเห็นผล? อยู่ได้นานไหม?
หลังการฉีด Radiesse Plus ผู้รับบริการจะเห็นการเติมเต็มของผิวในทันทีจากตัวเจลพาหะที่ช่วยให้ผิวดูแน่นกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม กระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่จะเริ่มทำงานภายใน 2–4 สัปดาห์หลังฉีด และจะคงผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง คำถามที่ว่า Radiesse ฉีดกี่ครั้ง จึงขึ้นอยู่กับปัญหาเฉพาะของแต่ละบุคคลและการประเมินโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ โดยทั่วไปสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12–18 เดือน และอาจนานกว่านั้นในบางราย โดยไม่จำเป็นต้องฉีดบ่อยเท่าฟิลเลอร์ชนิดอื่น
การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรม Radiesse Plus
หลังจากการฉีด Radiesse Plus แพทย์จะแนะนำแนวทางปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงของอาการบวมแดง หรือภาวะแทรกซ้อนเล็กน้อยที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยการดูแลที่เหมาะสมจะช่วยให้ผลลัพธ์ของ Radiesse (+) อยู่ได้นานและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
- งดการสัมผัส การจับ การลูบ การนวดผิวบริเวณที่ฉีดเพื่อไม่ให้เกิดการเคลื่อนตัว
- งดการแต่งหน้า การใช้เครื่องสำอางค์ 12 ชั่วโมงหลังทำ
- หลังทำโปรแกรม Radiesse Plus อาจมีอาการบวมได้บ้างเล็กน้อยจากรอยเข็มหลังฉีด แต่จะหายได้เองภายใน 1-3 วันหลังฉีด
- สามารถประคบเย็นด้วย Cold & Hot Pack ในวันแรกหากมีอาการบวม ช้ำ หลังฉีดวันละ 20-30 นาที
- สามารถรับประทานยาลดอาการบวมช้ำ หรือลดปวดได้หากมีอาการ
โปรแกรม Radiesse Plus ต่างจากโปรแกรมฟิลเลอร์อย่างไร?
โปรแกรม ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด Hyaluronic Acid (HA) หากเป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ก็ยังสามารถไหล หรือกระจายตัวไปยังบริเวณอื่นได้ เหมาะสำหรับการฉีดในหลายตำแหน่ง ไม่ใช่การฉีดเฉพาะจุด และมีผลลัพธ์อยู่เพียงแค่ประมาณ 1 ปี
โปรแกรม Radiesse Plus เป็นสารเติมเต็มที่มีส่วนประกอบหลักคือ Calcium Hydroxylapatite หรือ CaHA ที่มีลักษณะเป็นเนื้อแข็ง ช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าทันทีหลังฉีด และได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานถึง 2 ปี พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว ให้ความคงรูปได้ดีกว่า เมื่อฉีดลงไปบริเวณไหนก็จะไม่เกิดกระจายตัว
โปรแกรม Radiesse Plus ต่างจาก Radiesse ปกติ อย่างไร?
Radiesse classic เดิมไม่มีส่วนผสมของยาชา จึงยังจำเป็นต้องใช้การฉีดด้วยการผสมยาชา (Lidocaine) และน้ำเกลือ (Normal saline solution/NSS) สามารถช่วยให้ผิวแน่นขึ้น แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย โดยเน้นแก้ปัญหาในเรื่องงานผิวมากกว่างานโครงหน้า ด้วยการฉีดตื้น ๆ เพื่อให้เกิดการกระจายตัวทั่ว ๆ เพื่อให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจน
Radiesse Plus มีความต่างตรงที่ Radiesse Plus มีส่วนผสมของยาชาหรือ Lidocaine0.3% ดังนั้นจึงมีความคงตัวสูง สามารถสร้างโครงหน้า สร้างกรอบหน้าได้อย่างชัดมากขึ้น โดยไม่ต้องผสมน้ำเกลือ (Normal saline solution/NSS) มีคุณสมบัติ High viscosity ที่ฉีดลงไปบริเวณไหนก็จะไม่กระจายตัว และคุณสมบัติ High elasticity ที่มีแรงยกผิวได้สูง ต้านแรงความหย่อนคล้อยได้มากที่สุดใบบรรดาสารฉีดกระตุ้นคอลลาเจน ด้วยการใช้ปริมาณยาเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น >> ความแตกต่างระว่าง Radiesse Plus กับ Radiesse ปกติ
ทำเลเซอร์ร่วมกับฉีด Radiesse Plus ได้หรือไม่
โปรแกรมฉีด Radiesse Plus สามารถทำร่วมกับเครื่องหัตถการเลเซอร์ได้ เนื่องจาก Radiesse Plus มีความคงตัวสูง สามารถทนความร้อนได้ดีถึง1,000 องศาเซลเซียส มีส่วนประกอบของ Calcium Hydroxylapatite หรือ CaHA ที่ให้ผลลัพธ์ในระยะยาวมากกว่าหนึ่งปีขึ้นไป จึงสามารถทำร่วมกับการเลเซอร์ต่างๆได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดทั้งงานยกกระชับและงานผิวนั้นเอง
ทั้งนี้โปรแกรม Radiesse Plus เป็นหัตถการที่ไม่ได้ยาก ไม่มีความซับซ้อน แต่จำเป็นต้องใช้เทคนิคที่เหมาะสมในการฉีดให้ได้ผลลัพธ์ออกมาสวย โดยต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ และความแม่นยำของตำแหน่งบริเวณที่ฉีด ดังนั้นควรเลือกคลีนิกที่ได้มาตรฐาน ซึ่ง The Signature ของเราเป็นคลีนิกที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน มีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ พร้อมให้บริการ ดูแล ให้คำปรึกษาตั้งแต่ก่อนทำจนถึงหลังทำ เพื่อผลลัพธ์อย่างสวยงามที่สุด เพื่อความประทับใจของผู้รับบริการ
Radiesse Plus ปลอดภัยหรือไม่?
Radiesse Plus ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากองค์กรทางการแพทย์ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยมีคุณสมบัติไม่ก่อให้เกิดการแพ้และสามารถสลายได้ตามธรรมชาติในร่างกาย ทั้งนี้เพื่อความมั่นใจสูงสุดควรอยู่ภายใต้การประเมินและการฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญเฉพาะทาง ซึ่งจะช่วยให้การฉีดมีความแม่นยำ ปลอดภัย และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
Radiesse Plus ราคากี่บาท?
ค่าบริการของ Radiesse Plus จะขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ตามปัญหาของแต่ละบุคคล โดยปริมาณทั่วไปต่อหนึ่งการรักษาคือ 1 กล่อง ซึ่งหลังผสมแล้วจะมีปริมาตรอยู่ที่ประมาณ 3–4.5 cc ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 36,000 บาท/กล่อง โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินความเหมาะสมและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานจะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
Radiesse Plus มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ฉีดดีไหม?
การพิจารณาว่าจะเลือกฉีด Radiesse Plus หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแต่ละบุคคลและคำแนะนำของแพทย์ จุดเด่นของ Radiesse Filler คือการฟื้นฟูคอลลาเจนจากภายใน จึงให้ผลที่ยาวนานและมีคุณภาพของผิวที่ดีขึ้นในระยะยาว
ข้อดี
Radiesse Plus เป็นหนึ่งในสารเติมเต็มที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่ามีประสิทธิภาพในการยกกระชับและเพิ่มวอลลุ่มให้กับใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ช่วยให้ผิวดูแน่นตึงแม้ระยะเวลาผ่านไป นอกจากนี้ ยังมีความหนืดและความยืดหยุ่นสูงเหมาะสำหรับการปรับรูปหน้าโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
ข้อเสีย
แม้ว่า Radiesse (+) จะให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในระยะยาว แต่ก็ไม่เหมาะกับทุกบริเวณของใบหน้า เช่น ริมฝีปาก หรือใต้ตา ซึ่งผิวมีความบางและบอบบางสูง รวมถึงต้องอาศัยทักษะของแพทย์ในการฉีดอย่างแม่นยำ เพราะหากฉีดผิดตำแหน่งอาจก่อให้เกิดก้อนหรือไม่เรียบเนียนได้ และควรหลีกเลี่ยงในผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่ายหรือมีโรคประจำตัวบางชนิด
“ปรับผิวให้เนียน ด้วย Radiesse Plus เทคโนโลยีที่จะฟื้นสภาพผิวให้กลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง”
หากต้องดูแลปัญหาเรื่องผิว ด้วย Radiesse Plus ทำไมต้องเลือกที่ The Signature Clinic
การรักษาด้วย Radiesse Plus ที่ The Signature Clinic ดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ พร้อมใช้เทคนิคการฉีดที่ปลอดภัย ลดความเจ็บระหว่างทำ ด้วยการใช้เข็มชนิดพิเศษและการวางแผนอย่างเป็นระบบ เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แท้ที่ได้รับการรับรองจากผู้ผลิตโดยตรง ภายใต้บรรยากาศคลินิกที่สะอาด เป็นส่วนตัว และปลอดภัยสูงสุด
สรุป
Radiesse Plus คือทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวและยกกระชับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยคุณสมบัติของ Radiesse สารกระตุ้นคอลลาเจน ที่ช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและมีผิวที่ดูแน่นเรียบขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากคุณต้องการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดและมองหาวิธีที่ปลอดภัยพร้อมการดูแลอย่างมืออาชีพ การเลือกใช้บริการของ The Signature Clinic จะช่วยให้คุณได้รับการดูแลที่ตรงจุดและมั่นใจในทุกขั้นตอนของการรักษา
คำถามที่พบบ่อย
Radiesse ต่างจาก Radiesse Plus อย่างไร?
แม้ว่า Radiesse และ Radiesse Plus จะมีส่วนประกอบหลักเดียวกัน แต่มีความแตกต่างกันในด้านประสบการณ์ขณะฉีด โดยเฉพาะเรื่องความรู้สึก
- Radiesse: สูตรมาตรฐาน ไม่ผสมยาชา ผู้รับบริการอาจรู้สึกเจ็บระหว่างฉีด
- Radiesse Plus: ผสม Lidocaine (ยาชา) ในตัว ทำให้ฉีดได้สบายกว่า
- ทั้งสองสูตรกระตุ้นคอลลาเจนและสลายได้เองตามธรรมชาติ
- ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ทางคลินิกใกล้เคียงกัน ขึ้นกับการเลือกใช้โดยแพทย์
Radiesse Plus ราคา เท่าไหร่?
ราคาของ เรเดียสพลัส โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 36,000 บาท/กล่อง ซึ่งหลังผสมแล้วได้ปริมาตรประมาณ 3–4.5 cc ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความจำเป็นและบริเวณที่ฉีด โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาปริมาณที่เหมาะสม การเลือกฉีดเรเดียสในคลินิกที่ได้มาตรฐานจึงมีความสำคัญต่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและดูเป็นธรรมชาติ
Radiesse Plus อยู่ได้นานแค่ไหน?
ระยะเวลาของการคงผลขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งบริเวณที่ฉีด การดูแลหลังการรักษา และการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคล โดยเฉลี่ย Radiesse Plus จะให้ผลลัพธ์ได้นานประมาณ 12–18 เดือน และในบางรายอาจอยู่ได้นานถึง 24 เดือนหากมีการกระตุ้นคอลลาเจนที่ดีร่วมด้วย
Radiesse Plus เป็นของประเทศอะไร?
Radiesse Plus เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Merz Aesthetics ซึ่งเป็นบริษัทเวชสำอางชั้นนำจากประเทศเยอรมนี โดยได้รับการรับรองจากทั้ง US FDA และ CE Mark ในยุโรป ปัจจุบันถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในคลินิกความงามชั้นนำทั่วโลก รวมถึง The Signature Clinic ที่เลือกใช้ Radiesse (+) ที่ผ่านการรับรองคุณภาพเท่านั้น