โปรแกรม Potenza คือ เทคโนโลยีความงาม RF Microneedling ที่ช่วยฟื้นฟู ซ่อมแซมผิวพรรณ รักษาสิว รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้ผิวเฟิร์มยกกระชับ ผิวแน่นขึ้น เต่งตึง ผิวสุขภาพดี พร้อมทั้งสามารถผลักตัวยาและวิตามินเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึกในขั้นตอนเดียว
โปรแกรม Potenza คืออะไร?
โปรแกรม Potenza เครื่องแรกของโลกกับ 4 โหมดคลื่นพลังงานคลอบคลุมการรักษาปัญหาผิวในทุกส่วน
Potenza คือ เทคโนโลยีความงาม RF Microneedling เครื่องแรกของโลกที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกา ด้วยนวัตกรรม 4 MODE RADIO FREQUENCY MICRONEEDLING มาพร้อมกับคลื่นพลังงาน MONOPOLAR, BIPOLAR, 1 และ 2 Mhz รวมเอาไว้ด้วยกันในครื่องเดียว
เพื่อตอบโจทย์ความต้องการดูแลผิวพรรณ ฟื้นฟู ซ่อมแซม รักษาสิว รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้ผิวเฟิร์มยกกระชับ ผิวแน่นขึ้น เต่งตึง ผิวสุขภาพดี พร้อมทั้งสามารถผลักตัวยาและวิตามินเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึกในขั้นตอนเดียว มาพร้อมกับระบบการทำงานที่สามารถปรับแต่ง ตั้งค่า และออกแบบสำหรับการรักษาปัญหาผิว ครอบคลุมตั้งแต่ผิวชั้นตื้นไปจนถึงผิวชั้นลึก
Potenza เป็นเครื่องของ Cynosure แบรนด์เครื่องมือแพทย์ชั้นนำจากอเมริกาที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเทคโนโลยีการแพทย์ทั่วโลก มั่นใจในมาตรฐานด้วยการรับรองจาก US FDA
นวัตกรรมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในระดับโลกจากเหล่า Super Star อย่าง “คิม คาร์เดเชียน” หรือ คิมเบอร์ลี โนเอล คาร์เดเชียน แฟชั่นดีไซเนอร์ นักธุรกิจ นางแบบ นักแสดงชื่อดัง และคนดังนำกระแสในโลกโซเชียลมีเดีย ที่เลือกใช้บริการนี้ เพื่อดูแลตัวเองอยู่เป็นประจำ ถือว่าเป็นนวัตกรรมความงามที่ คิม คาร์เดเชียน Lover มากเลยก็ว่าได้
นอกจากนั้นดาราชั้นนำ celeb และคนดังในวงการบันเทิงของเมืองไทยที่ตบเท้าเข้ามาเลือกใช้บริการอย่างไม่ขาดสาย ถ้าไม่อยากตกเทรนด์ความงามกับนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ได้เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ในงานประชุมเชิงวิชาการ World Congress of Aesthetic Surgery-Medicine, Anti Aging and Alternative Medicine 2022 (WCAM 2022) ซึ่งจัดโดย สมาคมศัลยกรรมและเวชศาสตร์เสริมสวยประเทศไทย และสหพันธ์สมาคมเวชกรรมเสริมสวยและชะลอวัยประเทศไทย ณ โรงแรม Centara Grand at Central Plaza Ladprao Bangkok เมื่อวันที่ 25-27 มีนาคม พ.ศ.2565
โปรแกรม Potenza เป็นเครื่องแรกของโลกที่รวบรวมเอา 4 โหมดคลื่นพลังงาน Radio Frequency เอาไว้ในเครื่องเดียว เพื่อตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาผิวของแต่ละคนที่มีความต้องการ มีความหนัก-เบาของปัญหา และสภาพผิวที่แตกต่างกัน พร้อมทั้งเลือกบริเวณการรักษาได้อย่างครอบคลุมและตรงจุดสามารถเลือกได้ทั้งระยะเวลาในการปล่อยพลังงาน
รวมไปถึงความเข้มข้นของพลังงานที่ปล่อยออกไปในแต่ละครั้ง เครื่องนี้จึงได้รวบรวมคลื่นพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูงเอาไว้ให้แพทย์เป็นผู้วิเคราะห์และเลือกใช้ให้เหมาะกับคนไข้แต่ละราย
- ความถี่ 1 Mhz – คลื่นความถี่น้อยเหมาะกับการฟื้นฟูผิวและริ้วรอยเล็ก ๆ
- ความถี่ 2 Mhz – คลื่นความถี่มากช่วยยกกระชับ ฟื้นฟูผิว ยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย
- คลื่น Monopolar Radio Frequency – เป็นการส่งพลังงานแบบขั้วเดียว สามารถปล่อยคลื่นพลังงานลงลึกในชั้นผิวได้มากกว่า ช่วยฟื้นฟูผิวได้ดี
- คลื่น Bipolar Radio Frequency – เป็นการปล่อยพลังงานแบบสองขั้ว อาจจะลงได้ไม่ลึกเท่าแบบ Monopolar แต่พลังงานอัดแน่นในบริเวณนั้น ๆ ได้มากกว่า ช่วยยกกระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฟื้นฟูและจัดการปัญหาผิวด้วยหัวทิปมากถึง 4 ประเภท
นอกจากมีคลื่นพลังงานที่แตกต่างกันหลายแบบแล้ว ยังมีหัวทิปทรงประสิทธิภาพถึง 4 แบบหลัก ที่สามารถเลือกปรับแยกย่อยใช้งานได้มากถึง 10 แบบ เพื่อให้แพทย์สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ตอบโจทย์ตรงกับความต้องการของผิวมากที่สุด โดยแอพพลิเคเตอร์หนึ่งหัวยิงได้มากถึง 1,000 shot และเป็นแบบใช้แล้วทิ้ง ไม่นำกลับมาใช้ใหม่ จึงมั่นใจได้ว่าผลลัพธ์จะออกมาดีที่สุด
SEMI-INSULATED TIPS (S-TIPS)
- หัวทิปเฉพาะของโพเทนซ่า โดยมีจุดปล่อยพลังงานถึง 2 จุดในครั้งเดียว
- สามารถรักษา กระตุ้นการซ่อมแซม ฟื้นฟูผิวทั้งชั้นหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ได้พร้อมกัน
- แพทย์สามารถเลือกปรับระดับความลึกได้ตามความเหมาะสม
- ปรับระดับความเข้มและระยะเวลาในการปล่อยของพลังงานได้ตามลักษณะปัญหาที่ออกแบบไว้อย่างเหมาะสมกับสภาพผิวของคนไข้แต่ละท่าน
- เลือกใช้ได้ทั้งโหมด Monopolar และ Bipolar ขึ้นอยู่กับการประเมินของคุณหมอผู้ทำการรักษา และสามารถใช้ได้ 1,000 shots
INSULATED TIPS (I-TIPS)
- เป็นการรวมพลังงานไว้ในจุดเดียว พลังงานที่ปล่อยจึงอัดแน่นในจุดเดียว
- เป็นเข็มที่ใช้แล้วทิ้ง ไม่ใช้ซ้ำ
- สามารถส่งพลังงานได้อย่างแม่นยำในผิวระดับลึก
- จัดการปัญหารอยหลุมสิว ริ้วรอย และปัญหาผิวต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เลือกระดับความลึกของชั้นผิวที่จะทำการรักษาได้ตามความเหมาะสม
- เน้นย้ำในการฟื้นฟู กระตุ้นคอลลาเจน อิลาสติน ผิวจึงกระชับ เต่งตึง ผิวแน่นขึ้น
SINGLE NEEDLE TIPS
- เป็นหัวทิปสำหรับรักษาสิว
- ส่งคลื่นพลังงานลงไปฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงจุด และแม่นยำ
- ปล่อยคลื่นพลังงานจัดการต่อมไขมันใต้ชั้นผิวต้นตอของการเกิดสิว ให้ฝ่อตัวลง
- รักษาได้ทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตัน โดยไม่ต้องกดสิวก่อน (ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้รักษาเป็นคนวิเคราะห์และพิจารณา)
- สามารถทำร่วมกับคอร์สรักษาสิวอื่น ๆ ได้
INFUSION TIP
- หัวทิปที่สามารถยกกระชับ ปรับให้ผิวแน่น จัดการริ้วรอย แก้ปัญหาผิว พร้อมทั้งผลักตัวยาหรือวิตามินเข้าสู่ชั้นผิวลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพในขั้นตอนเดียว
- สามารถผลักตัวยาเข้าสู่ผิวลึกได้อย่างสม่ำเสมอดีกว่าเครื่องผลักยาด้วยเข็มแบบทั่วไป มีการทดลองพบว่าผิวสามารถได้รับตัวยามากถึง 67% (ผลการรักษาขึ้นกับแต่ละรายบุคคล)
- ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว
โปรแกรม POTENZA ช่วยแก้ไขปัญหาผิวแบบไหนบ้าง
- แก้ไขปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ
- ช่วยให้ผิวเฟิร์ม กระชับ เต่งตึง
- ช่วยกระชับรูขุมขน ปรับผิวเรียบเนียน
- ช่วยผลักตัวยาบำรุงและวิตามินต่าง ๆ ลงไปใต้ชั้นผิวได้อย่างล้ำลึก
- รักษาหลุมสิว
- ลดเลือนจุดดำ ลบรอยแผลเป็น
เหมาะกับสภาพผิวแบบไหนและทำบริเวณไหนได้บ้าง?
Potenza มีระบบการทำงานที่สามารถปรับแต่ง ตั้งค่า และออกแบบสำหรับการรักษาทุกปัญหาผิว ครอบคลุมตั้งแต่ผิวชั้นตื้นไปจนถึงผิวชั้นลึก สามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกาย ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์และเลือกใช้เพื่อให้เหมาะกับแต่ละรายบุคคลที่มีความต้องการรวมถึงปัญหาที่ไม่เหมือนกัน โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
- บริเวณผิวหน้า ช่วยแก้ไขผิวหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอย ปัญหาสิวและลุมสิว อีกทั้งยังช่วยดูแลผิวได้อย่างล้ำลึกช่วยให้หน้าดูกระจ่างใส ผิวดูมีสุขภาพดีขึ้น
- บริเวณหางตา สามารถช่วยยกหางคิ้วหรือหางตาขึ้น เพื่อให้ดวงตาดูสดใส ไม่ดูเศร้า ทั้งยังแก้ปัญหารอยตีนกา
- บริเวณใต้ตาง และลำคอ แก้ไขปัญหาใต้คางหย่อย ย้อย ลำคอเหี่ยวย่นให้กระชับเต่งตึงมากขึ้น กรอบหน้าชัด
- บริเวณหลังมือ แก้ไขปัญหามือเหี่ยวย่น ให้กลับมาเต่ง ตึง ทั้งยังช่วยให้มือดูเนียน นุ่มขึ้น
- บริเวณหน้าท้องและหลัง ช่วยแก้ไขผิวห้อยย้อย หย่อนคล้อย ผิวแตกลาย ไม่กระชับ รวมถึงคุณแม่หลังคลอดที่เกิดปัญหารอยแตกลายบนหน้าท้อง และในผู้ที่มีปัญหาเหี่ยวย่น ให้กลับมากระชับ แต่งตึง ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
โปรแกรม POTENZA ต้องทำบ่อยแค่ไหนจึงจะเห็นผล?
โปรแกรม POTENZA สามารถเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีมากขึ้นไปอีกใน 4 – 6 สัปดาห์ ผลลัพธ์จะคงอยู่นานตั้งแต่ 6 – 12 เดือน โดยทั้งนี้ผลการรักษาขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละรายบุคคล
ข้อดีของการทำโปรแกรม POTENZA
- ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง มีความยืดหยุ่น และเต่งตึงมากขึ้น
- กระชับผิว ลดริ้วรอย และผลักตัวยาเข้าสู่ชั้นผิวลึกได้พร้อมกันในขั้นตอนเดียว
- จัดการปัญหาผิวได้หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการดูแลผิวพรรณ
- สามารถรักษาสิวได้ทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตัน
- ทำได้ทุกส่วนของร่างกาย
- ออกแบบการรักษาแบบเฉพาะรายบุคคลได้หลากหลาย ตามความเหมาะสมของคนไข้แต่ละเคสที่ไม่เหมือนกัน
- ใช้เวลาการรักษาที่สั้น ทำได้ง่ายแต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว
- เห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน
- ไม่มีมีแผลตกสะเก็ด ไม่มีรอยเขียวช้ำ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
- ผิวเรียบเนียนขึ้นภายในไม่กี่วันและค่อยๆ ดีขึ้นตลอดระยะเวลาการรักษา
- ใช้เวลาในการสมานแผลเร็วกว่าการรักษาแบบ microneedling (ที่ไม่ใชค้ลื่นความถี่วิทยุ) แบบดั้งเดิม
ข้อควรระวังของการทำ POTENZA
- ไม่ควรใช้กับผู้ที่เคยรักษาด้วยไหมทองคำ
- ไม่สามารถรักษากับคนไข้ที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ
- ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่มีแนวโน้มการเกิดแผลเป็นคีลอยด์
- อาจจะมีรอยแดงเล็กน้อย และจะหายไปได้เองภายใน 3 – 4 ชั่วโมงหลังทำ
- กำลังตั้งครรภ์และ/หรือกำลังให้นมบุตร
ข้อปฏิบัติก่อนเข้ารับบริการ
- ดื่มน้ำมาก ๆ เนื่องด้วยน้ำเป็นสื่อกลางที่จะช่วยให้การเดินทางของคลื่นพลังงานทำได้ดีขึ้น หากร่างกายขาดน้ำหรือในผิวมีน้ำไม่เพียงพอ มีโอกาสที่ประสิทธิภาพการรักษาอาจจะลดลงได้ ดังนั้นเพื่อให้ผลการรักษาดีขึ้นควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพออย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนเข้ารับการรักษาภายใน 24 ชั่วโมง ควรงดเว้นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะในเครื่องดื่มเหล่านี้ส่งผลกระทบให้ผิวแห้ง ขาดน้ำได้ค่ะ ซึ่งเสี่ยงที่จะลดทอนประสิทธิภาพการรักษาลงไปได้
- งดทรีตเม้นท์ที่ทำร้ายผิว ก่อนเข้ารับบริการภายใน 7 วัน ควรงดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้ผิวเกิดการอักเสบ ระคายเคือง เกิดผื่นคัน หรือเกิดผิวเปราะบางได้ เช่น การทำสครับผิว ผลัดเซลล์ผิว หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เป็นต้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่มีความอ่อนโยนต่อผิวมากที่สุด นอกจากจะช่วยให้ไม่ลดประสิทธิภาพการรักษาแล้ว ยังช่วยให้ผิวแข็งแรงไม่ถูกทำร้ายได้อีกด้วย
ข้อปฏิบัติและการดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรม POTENZA
- ดูแลผิวอย่างอ่อนโยน ควรทำความสะอาดผิวด้วยน้ำสะอาด หรือเช็ดด้วยน้ำเกลือ รวมถึงหากต้องการทาครีมบำรุงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมที่มีฤทธิ์เป็นกรด หรือส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ต่าง ๆ ที่จะทำให้ผิวระคายเคือง ภายใน 12 – 24 ชั่วโมงหลังการรักษา หรือเน้นใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
- งดขัดผิว หลีกเลี่ยงการขัด ลอก หรือสครับผิว เพราะจะทำให้ผิวเกิดการอักเสบ เกิดแผลขึ้นได้
- หลีกเลี่ยงแสงแดด หลังการรักษาควรหลีกเลี่ยงแสงแดดให้ได้มากที่สุด และทาครีมกันแดดที่มี SPF ≥ 30 และสามารถกันได้ทั้ง UVA และ UVB
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ ภายหลังการรักษาในช่วงแรกควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีส่วนทำให้ผิวแห้ง ขาดน้ำ และสามารถทำให้ประสิทธิภาพการฟื้นฟู ซ่อมแซมผิวลดลงได้
- งดกิจกรรมที่ทำให้เสียเหงื่อมาก ภายใน 24 ชั่วโมงหลังทำการรักษา ควรงดกิจกรรมหรือการออกกำลังกายหนักที่ทำให้ร่างกายเสียเหงื่อมาก ๆ เช่น ซาวน่า คาร์ดิโอ หรือการออกกำลังกายหนัก ๆ เป็นต้น เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ ช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟู ซ่อมแซมผิวได้เต็มที่
- ห้ามแกะแผลในบริเวณที่ทำการรักษา เนื่องจากอาจทำให้เกิดเป็นรอยดำหรือด่างขาวได้
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังทำ
- รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่ม : อาจมีอาการบวมเล็กน้อยหลังการรักษาแต่อาการนี้จะหายไปเองภายใน 48 ชั่วโมงหลังการรักษา
- ผิวอมชมพูชั่วคราว : บริเวณที่ทำการรักษาอาจเปลี่ยนเป็นสีแดงอมชมพูทันทีหลังการรักษาแต่จะหายไปภายใน 48 ชั่วโมง
- ความรู้สึกแสบร้อน : ผู้ป่วยอาจรู้สึกชั่วคราวขณะรับการรักษา
- เกิดเลือดออกหลังการรักษาได้
- ผลข้างเคียงทั้งหมดจะหายไปเองได้ภายใน 2 วัน หลังจบการรักษา
Q&A คำถามที่พบบ่อย
Q : เมื่อเข้ารับบริการโปรแกรม Potenza สามารถรับบริการฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ได้ไหม?
A : หลังเข้ารับบริการโปรแกรม Potenza งดเว้นพวกฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ไปก่อนประมาณ 3 – 5 วัน เพราะบริการนี้จะเป็นการส่งคลื่นพลังงานเข้าไปใต้ชั้นและมีการเกิดความร้อนขึ้น แต่เป็นความร้อนที่ไม่ทำร้ายผิว มีประโยชน์ในการกระตุ้นคอลลาเจนกับอีลาสติน
Q : บริการโปรแกรม Potenza เจ็บไหม?
A : ก่อนทำหัตถการจะมีการทายาชา 30- 45 นาที เพราะฉะนั้นจะไม่มีความรู้สึกเจ็บระหว่างทำ แต่อาจจะมีความรู้สึกอุ่นๆ โดยขึ้นอยู่กับความไวของการรับความรู้สึกของแต่ละรายบุคคล
Q : สามารถทำร่วมกับคอร์สรักษาสิวได้หรือไม่?
A : โปรแกรม Potenza สามารถทำร่วมกับการรักษาสิวได้ เพราะคอร์สรักษาสิวก็มีหลายวิธีการรักษา เช่น เลเซอร์ PICOSURE Pro หรือ PICOSURE Laser ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละท่าน และในคนไข้ที่มีปัญหาหลุมสิวจะช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นด้วย
Q : หากทำอัลเทอร่าหรือเทอร์มาร์จแล้วจะทำหัตถการนี้ได้ไหม?
A : หลังจากทำโปรแกรมอัลเทอร่าและเทอร์มาจมาแล้วสามารถทำโปรแกรม Potenza ได้เพราะเป็นการส่งคลื่นพลังงานเข้าสู่ใต้ชั้นผิว เพื่อไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเช่นเดียวกัน แต่ Potenza สามารถผลักตัวยาเข้าไปพร้อมกันในขั้นตอนเดียวได้อีกด้วย
Q : ทำศัลยกรรมมาจะสามารถเข้ารับบริการได้หรือไม่?
A : ผู้ที่เคยทำหัตถการศัลยกรรมมาก่อน ก็สามารถรับบริการโปรแกรม Potenza ได้ แต่หากเป็นศัลยกรรมที่เป็นการเสริมวัสดุต่าง ๆ เข้าไปแนะนำให้เข้ามารับคำปรึกษาจากคุณหมอเพื่อวิเคราะห์ ประเมินปัญหา และวางแผนการรักษาเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพผิวที่ต้องการแก้ไขที่สุด
Q : หลังทำโปรแกรม Potenza จะทำให้หน้าเป็นรูไหม รอกี่วันแผลหาย?
A : หัวทิปของ Potenza ใช้เข็มขนาดเล็กระดับ Micro หลังทำ หน้าจะไม่เป็นรมีเพียงรอยแดงสามารถหายได้ภายใน 1-2 วัน
โปรแกรม Potenza (โพเทนซ่า) จึงเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมแห่งปี 2022 จากสหรัฐอเมริกา ที่เรียกได้ว่าทั้งช่วยดูแลฟื้นฟู กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน จึงช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างครบเครื่องเรื่องปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของริ้วรอย ความหย่อนคล้อย ปัญหาสิว ทั้งยังมีโหมดการรักษาที่ช่วยยกกระชับผิวไปพร้อม ๆ กับการผลักตัวยาให้เข้าไปใต้ชั้นผิวในขั้นตอนเดียว โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่มีแผลตกสะเก็ด หลังทำผิวหน้าจึงดูยกขึ้น ผิวแน่น กระชับ
