ริ้วรอยใต้ตา เป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยเมื่ออายุเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อความมั่นใจของหลายคน การเปลี่ยนแปลงของชั้นผิว คอลลาเจน และพฤติกรรมในชีวิตประจำวันล้วนส่งผลให้เกิดรอยใต้ตาได้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บริการของ The Signature Clinic จึงมุ่งเน้นการดูแลปัญหานี้ด้วยเทคนิคที่ทันสมัยและปลอดภัย บทความนี้จะพาไปรู้จักกับต้นเหตุของปัญหาใต้ตาเหี่ยว พร้อมแนวทางแก้ไขทั้งแบบธรรมชาติและหัตถการทางการแพทย์
สรุปริ้วรอยใต้ตา สาเหตุ วิธีดูแล และการรักษาที่เหมาะสม
- ริ้วรอยใต้ตา คือรอยย่นหรือเส้นบาง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการเสื่อมของผิวหนังใต้ตา มักเริ่มปรากฏเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป ส่งผลต่อความมั่นใจและบุคลิกภาพโดยรวม
- สาเหตุของรอยใต้ตาเกิดจากปัจจัยหลายด้าน เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น แสงแดด การพักผ่อนน้อย พฤติกรรมการแสดงสีหน้า รวมถึงพันธุกรรมและการขาดการบำรุงดูแลรอบดวงตา
- ปัญหารอยย่นใต้ตาส่งผลให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ไม่สดใส แต่งหน้าติดยาก และอาจสร้างความกังวลในเรื่องภาพลักษณ์
- วิธีลดริ้วรอยใต้ตาด้วยตนเอง 
- การหลีกเลี่ยงแสงแดด
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ดื่มน้ำมากพอ
- มาส์กใต้ตา
- ใช้ครีมบำรุงผิว
- การนวดใต้ตา
- การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
 
- การรักษาริ้วรอยใต้ตาทางการแพทย์มีหลายทางเลือก เช่น ฟิลเลอร์ที่ช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตา เลเซอร์ Picosure Pro ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และเทคโนโลยี RF Microneedle Potenza ที่ลดรอยเหี่ยวย่นโดยไม่ทำร้ายผิว
- Potenza เป็นเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีใต้ตาเหี่ยวย่นระดับปานกลางถึงลึก โดยให้ผลลัพธ์ดีและไม่เจ็บมาก
- The Signature Clinic ให้บริการรักษาริ้วรอยใต้ตาด้วยเทคนิคที่ปลอดภัย ไม่รุกล้ำ และใช้อุปกรณ์มาตรฐานระดับสากล พร้อมดูแลโดยแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะด้าน
- สำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยรอบดวงตาอย่างเป็นระบบและปลอดภัย การรักษากับ The Signature Clinic ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความอ่อนโยน และผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
“ริ้วรอยใต้ตา คืออะไร รักษาวิธีไหนให้ได้ผลดี”
ริ้วรอยใต้ตา คืออะไร?
ริ้วรอยใต้ตา คือเส้นหรือรอยย่นใต้ตาที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวหนัง ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งริ้วรอยตื้นและริ้วรอยลึก ความยืดหยุ่นของผิวลดลงตามอายุ รวมถึงการแสดงสีหน้าและสภาพแวดล้อม ล้วนส่งผลต่อการเกิดริ้วรอยบริเวณนี้ การมีริ้วรอยใต้ตาอาจเกิดตั้งแต่ช่วงอายุ 25 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะในผู้ที่พักผ่อนน้อยหรือโดนแดดบ่อย ผิวบริเวณนี้มีความบอบบาง จึงต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
ริ้วรอยใต้ตา สาเหตุเกิดจากอะไร?

ผิวใต้ตามีความบางและไวต่อการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างมากกว่าส่วนอื่นของใบหน้า ทำให้เกิดรอยเหี่ยวใต้ตาได้ง่าย ซึ่งมักเกิดจากปัจจัยภายนอกและภายในหลายประการ:
- อายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้คอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวลดลง
- พักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้ใต้ตาย่นและดูหมองคล้ำ
- แสงแดด และรังสี UV ทำลายโครงสร้างผิว
- การแสดงสีหน้า เช่น หัวเราะ ขยี้ตา หรือยิ้มบ่อย
- พันธุกรรมและฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง
- ขาดการดูแลผิวรอบดวงตาอย่างเหมาะสม
ริ้วรอยใต้ตา ส่งผลเสียอย่างไร?
เมื่อมีรอยย่นใต้ตา จะส่งผลต่อบุคลิกภาพและภาพลักษณ์โดยรวมของใบหน้าได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังทำให้ดูเหนื่อยล้า ไม่สดใส และดูแก่กว่าวัย:
- ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและหมองคล้ำ
- ส่งผลต่อความมั่นใจ โดยเฉพาะเวลาสบตาหรือถ่ายรูป
- อาจแต่งหน้าได้ยากขึ้น เครื่องสำอางตกร่องง่าย
- เกิดความกังวลและรู้สึกไม่พอใจในรูปลักษณ์ของตนเอง
7 วิธีลดริ้วรอยใต้ตาด้วยตนเอง

หากคุณเริ่มมีริ้วรอยใต้ตาเบื้องต้น การดูแลตนเองอย่างสม่ำเสมอจะช่วยชะลอการเกิดรอยเหี่ยวย่นใต้ตาได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งควรทำควบคู่ไปกับการดูแลผิวหน้าโดยรวม
1. หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด
แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำลายคอลลาเจนใต้ผิว การทาครีมกันแดดเป็นประจำโดยเฉพาะรอบดวงตาจึงเป็นสิ่งจำเป็น รวมถึงการสวมแว่นกันแดดหรือหมวกปีกกว้างขณะออกแดด เพื่อลดการเกิดใต้ตาเหี่ยวย่นในระยะยาว การดูแลนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยลดริ้วรอยใต้ตาได้อย่างปลอดภัย
2. พักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
การนอนหลับอย่างเพียงพอช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูเซลล์ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากพักผ่อนไม่พอจะสังเกตได้ว่าใต้ตาดูคล้ำและเหี่ยวย่น การนอนในท่าที่ถูกต้องก็มีส่วนลดแรงกดทับที่อาจส่งผลต่อการเกิดรอยใต้ตาได้เช่นกัน การนอนอย่างมีคุณภาพจึงเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญของการแก้ริ้วรอยใต้ตา
3. การมาส์กใต้ตา
การใช้แผ่นมาส์กใต้ตาที่มีส่วนผสมของสารบำรุง เช่น กรดไฮยาลูรอน วิตามินซี หรือเปปไทด์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดความแห้งกร้านของผิวได้เป็นอย่างดี ควรใช้เป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อรักษาความยืดหยุ่นของผิวและลดรอยเหี่ยวย่นใต้ตาอย่างอ่อนโยน
4. การใช้ครีมบำรุงผิวใต้ตา
ครีมบำรุงผิวรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของเรตินอล เปปไทด์ หรือวิตามินอี สามารถช่วยลดรอยย่นใต้ตาได้ในระยะยาว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบว่าปลอดภัยต่อผิวรอบดวงตา และใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ เช้า-เย็น เป็นประจำ เพื่อฟื้นฟูผิวที่มีริ้วรอยใต้ตาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
5. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพิ่มออกซิเจนและสารอาหารให้แก่ผิว ผิวจึงดูสดใสและลดโอกาสเกิดรอยเหี่ยวย่นใต้ตาได้ การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอยังช่วยลดความเครียด ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยเร่งการเกิดริ้วรอยด้วย
6. การดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว
การรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะผิวใต้ตาที่มักสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยให้ผิวเต่งตึงและลดรอยย่นใต้ตาได้อย่างเป็นธรรมชาติ การดื่มน้ำยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย
7. การนวดใต้ตา
การนวดเบา ๆ รอบดวงตาวันละ 1-2 ครั้ง ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการบวม และทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น การใช้นิ้วนางแตะเบา ๆ เป็นวงกลมบริเวณใต้ตา พร้อมใช้ครีมหรือออยล์ที่เหมาะกับผิวบอบบาง จะช่วยลดริ้วรอยใต้ตาได้ในระยะยาว
การรักษาริ้วรอยใต้ตา ด้วยวิธีหัตถการทางการแพทย์?
สำหรับผู้ที่มีริ้วรอยใต้ตาในระดับที่เด่นชัด การรักษาด้วยหัตถการทางการแพทย์สามารถดูแลปัญหาริ้วรอยใต้ตาได้ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ปลอดภัย และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งช่วยชะลอการเกิดรอยย่นใต้ตาใหม่ และเสริมความมั่นใจได้
1. การเสริมฟิลเลอร์
การเติมฟิลเลอร์ไฮยาลูโรนิกแอซิดในบริเวณร่องลึกใต้ตา ช่วยคืนความเรียบเนียนให้ผิวทันที เหมาะกับผู้ที่มีใต้ตาเหี่ยวและร่องลึกจากการยุบตัวของชั้นไขมัน ผลลัพธ์มีความเป็นธรรมชาติและคงอยู่ชั่วคราวโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด >> รู้จักโปรแกรมฟิลเลอร์ เพิ่มเติม
2. การเลเซอร์ Picosure Pro
เทคโนโลยี Picosure Pro เป็นเลเซอร์พลังงานสูงแบบ Picosecond ที่ใช้รักษารอยใต้ตา โดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระดับลึกอย่างแม่นยำ ช่วยลดรอยดำจุดด่าง รอยเหี่ยวย่นใต้ตา และฟื้นฟูผิวให้ดูเนียนละเอียดขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบางบริเวณรอบดวงตา >> รู้จักโปรแกรม Picosure Pro เพิ่มเติม
3. การรักษาด้วยคลื่นวิทยุ Potenza
Potenza คือเทคโนโลยี RF Microneedle ที่ผสานระหว่างเข็มละเอียดและพลังงานคลื่นวิทยุเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนลึกถึงผิวชั้นใน โดยไม่ทำร้ายผิวด้านบน ทำให้ลดริ้วรอยรอบดวงตาได้อย่างปลอดภัย และไม่เจ็บมาก จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้มีรอยย่นใต้ตาในระดับปานกลางถึงลึก >> รู้จักโปรแกรม Potenza เพิ่มเติม
“ปรับผิวให้เนียน ด้วย Potenza เทคโนโลยีที่จะฟื้นสภาพผิวให้กลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง”
หากต้องการรักษาริ้วรอยใต้ตา ทำไมต้องเลือกบริการจาก The Signature Clinic
The Signature Clinic ให้ความสำคัญกับการรักษาริ้วรอยใต้ตาอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้เทคโนโลยี Potenza ซึ่งเป็นคลื่นวิทยุระดับสูงที่ช่วยลดรอยเหี่ยวย่นใต้ตาได้อย่างตรงจุด ภายใต้กระบวนการรักษาที่อ่อนโยน ไม่น้อย และอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทาง คุณจึงมั่นใจได้ทั้งผลลัพธ์และความปลอดภัยในการดูแลผิวรอบดวงตา
สรุป
ริ้วรอยใต้ตา เป็นปัญหาที่เกิดจากปัจจัยหลากหลาย ทั้งอายุ แสงแดด และพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน บริการของ The Signature Clinic พร้อมช่วยดูแลและแก้ไขปัญหานี้อย่างครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และทีมแพทย์ผู้ชำนาญ หากคุณต้องการลดริ้วรอยรอบดวงตาอย่างปลอดภัยและมีแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ที่นี่คือคำตอบของคุณ
คำถามที่พบบ่อย
ทำยังไงให้ริ้วรอยใต้ตาหาย?
แม้ไม่สามารถกำจัดริ้วรอยใต้ตาให้หมดไปอย่างถาวรได้ แต่สามารถลดเลือนและชะลอการเกิดได้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังนี้:
- ทาครีมบำรุงรอบดวงตาเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดด
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการทำเลเซอร์หรือฟิลเลอร์
ริ้วรอยเริ่มเกิดขึ้นเมื่ออายุเท่าไหร่?
โดยทั่วไปริ้วรอยใต้ตาจะเริ่มปรากฏเมื่ออายุประมาณ 25 ปีขึ้นไป เนื่องจากร่างกายเริ่มลดการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ ผู้ที่พักผ่อนน้อย ดื่มน้ำน้อย หรือเจอแสงแดดบ่อยอาจมีรอยย่นใต้ตาเร็วกว่าคนทั่วไป ดังนั้นควรเริ่มดูแลผิวบริเวณนี้ตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อป้องกันไว้ก่อน
วิตามินอะไร ช่วยลดริ้วรอย?
วิตามินที่มีคุณสมบัติช่วยชะลอริ้วรอยใต้ตา ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี และวิตามินเอ (เรตินอล) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินเหล่านี้ควบคู่กับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะยิ่งเสริมผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้น
วิธีลดริ้วรอยแบบธรรมชาติ?
การลดริ้วรอยใต้ตาแบบธรรมชาติสามารถทำได้โดยไม่พึ่งการแพทย์ แนะนำวิธีต่อไปนี้:
- นวดเบา ๆ รอบดวงตา
- ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
- พักผ่อนให้เพียงพอวันละ 6-8 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการขยี้ตาหรือย่นหน้าบ่อย
- ใช้มาส์กหรือแตงกวาประคบเย็นบริเวณใต้ตา
 
								 
															

