แก้หลุมสิว เป็นหนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่กวนใจใครหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีประสบการณ์กับสิวอักเสบหรือหน้าเป็นหลุมสิว ซึ่งมักจะส่งผลต่อความมั่นใจและบุคลิกภาพอย่างเห็นได้ชัด หลายคนอาจสงสัยว่า “หลุมสิวหายเองได้ไหม?” หรือ “หน้าเป็นหลุมสิวใช้อะไรดี?” บทความนี้ The Signature Clinic รวบรวม 12 วิธีแก้หลุมสิว ด้วยตัวเอง ที่ทั้งปลอดภัย เห็นผล และได้รับการยอมรับจากงานวิจัยและแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทาง
สรุป แก้หลุมสิว ทำอย่างไรให้ผิวกลับมาเรียบเนียน?
- หลุมสิว คือรอยแผลเป็นบุ๋มที่เกิดจากการอักเสบของสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบหรือสิวหัวช้างที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี พบบ่อยบริเวณแก้ม คาง หรือจมูก มีทั้งแบบแคบลึก (Ice Pick Scar), ขอบชัดคล้ายกล่อง (Boxcar Scar), หรือเป็นคลื่น (Rolling Scar) รวมถึงแบบนูน (Hypertrophic, Keloid) ซึ่งแต่ละแบบต้องการแนวทางฟื้นฟูแตกต่างกัน
- สาเหตุหลัก ได้แก่ การบีบแกะสิว การติดเชื้อแบคทีเรีย การละเลยการปกป้องผิวจากแสงแดด หรือปัจจัยกรรมพันธุ์ ส่งผลให้เนื้อเยื่อผิวถูกทำลายและสมานตัวผิดปกติ
- 12 วิธีแก้หลุมสิวที่ทำเองได้ เช่น การใช้วิตามินซี, กรดผลัดเซลล์ผิว (AHA/BHA), เรตินอล, ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้น, ครีมกันแดด, ยาทารักษาหลุมสิว, การดื่มน้ำมากขึ้น, มาสก์สมุนไพร, ลูกกลิ้งนวดหน้า, การทานวิตามิน B5/Zinc, Microneedling ที่บ้าน และการทานอาหารที่มีประโยชน์ เหล่านี้ช่วยลดรอยหลุมสิว ฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนขึ้น เหมาะกับหลุมสิวตื้นหรือช่วงเริ่มต้น
- กรณีหลุมสิวลึกหรือรอยชัดเจน แนะนำรักษาหลุมสิวกับแพทย์ เช่น เลเซอร์ Picosure Pro, คลื่นวิทยุ Potenza, การตัดพังผืด, ฉีดฟิลเลอร์ หรือหัตถการอื่น ๆ ซึ่งจะเลือกให้เหมาะสมกับชนิดของหลุมสิว
- การป้องกันหลุมสิว ที่ดีที่สุด คือหลีกเลี่ยงการบีบแกะสิว ดูแลผิวสะอาด เลือกผลิตภัณฑ์เหมาะกับสภาพผิว ปกป้องผิวจากแดด รับประทานอาหารมีประโยชน์ และปรึกษาแพทย์เมื่อสิวอักเสบรุนแรง หากต้องการคำแนะนำหรือรักษาหลุมสิวอย่างปลอดภัย สามารถปรึกษา The Signature Clinic ที่ให้บริการโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีมาตรฐานสูง เช่น Picosure Pro
“วิธีแก้หลุมสิว ที่ได้ผลจริง มีวิธีไหนบ้าง?”
หลุมสิว คืออะไร?

หลุมสิว หรือ Atrophic Scar คือรอยแผลเป็นที่มีลักษณะบุ๋มหรือเว้าตัวลงไปในผิวหนัง ซึ่งเกิดจากกระบวนการซ่อมแซมผิวหลังจากเกิดสิวอักเสบ เมื่อผิวไม่สามารถสร้างเนื้อเยื่อใหม่มาทดแทนได้สมบูรณ์ ทำให้เกิดเป็นรอยบุ๋มต่างๆ บนใบหน้า หลุมสิวแต่ละประเภทจะมีระดับความลึกและความกว้างแตกต่างกัน การเข้าใจลักษณะของหลุมสิวจึงเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนเริ่มวางแผนการรักษาหลุมสิวและแก้หลุมสิวที่ตรงจุด สำหรับใครที่สงสัยว่า “หน้าเป็นหลุมสิวใช้อะไรดี” หรือ “วิธีลดหลุมสิว” บทความนี้จะช่วยตอบโจทย์ทุกข้อสงสัยของคุณ
หลุมสิว สาเหตุเกิดจากอะไร?
หลุมสิวไม่ได้เกิดขึ้นจากสิวทุกประเภท แต่จะเกิดขึ้นมากในกลุ่มสิวอักเสบหรือสิวหัวช้างที่ลุกลามและถูกดูแลไม่ถูกวิธี หากใครกำลังประสบปัญหาหน้าเป็นหลุมสิวหรือเคยแกะ บีบสิวบ่อย อาจมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นหลุมสิวสูง
- สิวอักเสบที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง: เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการทำลายเนื้อเยื่ออย่างถาวร
- การบีบ แกะ เกา หรือกดสิวผิดวิธี: ส่งผลให้ผิวเกิดการบาดเจ็บและเกิดพังผืดดึงรั้งจนกลายเป็นหลุมสิว
- การติดเชื้อแบคทีเรีย: การติดเชื้อในสิวอักเสบหากลุกลามลงลึก จะทำลายคอลลาเจนในผิว ทำให้เกิดการยุบตัว
- พันธุกรรมและปัจจัยภายใน: บางคนอาจมีโอกาสเกิดหลุมสิวได้ง่ายกว่าเพราะโครงสร้างผิวและระบบภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกัน
- ขาดการดูแลป้องกันแสงแดด: รังสี UV ทำให้การสมานแผลในผิวแย่ลง เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นหลุมสิว
- พฤติกรรมดูแลผิวผิดวิธี: เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม อาจกระตุ้นให้สิวอักเสบลุกลามจนกลายเป็นหลุมสิว
หลุมสิว แบ่งออกเป็นกี่ประเภท?

หลุมสิว สามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ซึ่งแต่ละแบบมีความแตกต่างทั้งในด้านรูปร่างและระดับความรุนแรงของรอยบุ๋ม การแยกแยะชนิดของหลุมสิวช่วยให้เลือกวิธีแก้หลุมสิวหรือการรักษาหลุมสิวได้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยสามารถจำแนกเป็น 5 ประเภทหลักดังนี้
1. Ice Pick Scar
Ice Pick Scar เป็นหลุมสิวที่มีลักษณะแคบแต่ลึก คล้ายกรวยแหลมจิกลงไปในผิวหนังจนถึงชั้นลึกที่สุด หลุมสิวชนิดนี้มักจะพบในผู้ที่เคยเป็นสิวอักเสบรุนแรงและบีบสิวผิดวิธี จึงมักจะเป็นปัญหาที่ต้องการการดูแลรักษาอย่างเฉพาะเจาะจงและมักตอบสนองต่อครีมรักษาหลุมสิวได้ยา
2. Boxcar Scar
Boxcar Scar มีลักษณะขอบหลุมชัดเจน รูปร่างคล้ายกล่องสี่เหลี่ยม พบบ่อยในคนที่เคยมีสิวอักเสบระดับปานกลางถึงรุนแรง หลุมสิวประเภทนี้อาจเป็นได้ทั้งแบบตื้นและลึก การเลือกวิธีลดหลุมสิวจึงต้องปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญเพื่อประเมินอย่างละเอียดก่อน
3. Rolling Scar
Rolling Scar จะเห็นเป็นคลื่นผิวเว้าสลับนูน เนื่องจากเกิดพังผืดใต้ผิวดึงรั้งจนผิวหน้าไม่เรียบ รอยหลุมสิวลักษณะนี้มักกว้างและตื้นกว่าแบบอื่น เหมาะกับวิธีรักษาหลุมสิวด้วยตัวเองในระยะเริ่มต้นหรือเสริมกับการรักษาทางการแพทย์
4. Hypertrophic Scar
Hypertrophic Scar คือรอยแผลเป็นหลุมสิวที่นูนสูงกว่าผิวปกติ มีสีแดงหรือคล้ำ พบมากบริเวณหน้าอก แผ่นหลัง และใบหน้า การฟื้นฟูต้องใช้วิธีที่แตกต่างจากหลุมสิวตื้นและลึกแบบปกติการรักษาหลุมสิวชนิดนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เสมอ
5. Keloid Scar
Keloid Scar เป็นหลุมสิวที่มีลักษณะนูนมากกว่าผิวรอบข้าง ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเนื้องอกผิวหนัง มักมีอาการคันและสีแดงชัดเจน การรักษา keloid ควรได้รับคำแนะนำและการดูแลจากผู้ชำนาญโดยเฉพาะ
หลุมสิว แต่ละประเภทต่างกันอย่างไร?
หลุมสิวแต่ละชนิดมีโครงสร้างและวิธีการฟื้นฟูต่างกัน การรู้ลึกถึงรายละเอียดของแต่ละประเภทจะช่วยให้เลือกวิธีแก้หลุมสิวที่ตรงจุดที่สุด
Icepick Scar
Icepick Scar เป็นหลุมแคบ ลึก ขอบชัด รักษายาก ต้องใช้เทคนิคการรักษาหลุมสิวที่เฉพาะทาง เช่น การทำเลเซอร์ควบคู่กับเทคนิค TCA CROSS เพื่อกระตุ้นให้ผิวสร้างเนื้อเยื่อใหม่และลดความลึกของหลุมสิวได้อย่างปลอดภัย
Boxcar Scar
Boxcar Scar มีขอบสี่เหลี่ยมชัดเจน ความลึกและกว้างปานกลาง ตอบสนองต่อการรักษาได้หลากหลายทั้งการใช้เลเซอร์ คลื่นวิทยุ หรือกรดลอกผิว ผลลัพธ์จะดีขึ้นเมื่อทำหัตถการร่วมกันในแผนการรักษาหลุมสิว
Rolling Scar
Rolling Scar มีลักษณะเว้ากว้าง ขอบไม่ชัด ดูเป็นคลื่นผิว การรักษาหลุมสิวแบบนี้ต้องตัดพังผืดใต้ผิวและอาจเสริมด้วยเลเซอร์หรือคลื่นวิทยุ เพื่อกระตุ้นให้ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น
Hypertrophic Scar
Hypertrophic Scar เป็นรอยแผลนูนแข็ง ไม่ลามออกนอกขอบแผลเดิม การรักษามักใช้วิธีฉีดยากดภูมิคุ้มกันหรือเลเซอร์เพื่อลดความนูนและสีแดงของรอยแผลเป็นอย่างต่อเนื่อง
Keloid Scar
Keloid Scar แตกต่างจาก Hypertrophic เพราะจะขยายใหญ่กว่าขอบแผลเดิม การรักษาต้องใช้เวลาและความระมัดระวัง โดยอาจใช้เทคนิคฉีดยากดภูมิ ร่วมกับเลเซอร์ลดรอยนูน เพื่อฟื้นฟูหลุมสิวประเภทนี้โดยเฉพาะ
อ่านบทความ >> สิว (Acne) เกิดจากอะไร แก้วิธีไหนได้บ้าง?
แนะนำ 12 วิธีแก้หลุมสิว ให้หลุมตื้นขึ้น ที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้าน!
หากคุณกำลังมองหาวิธีลดหลุมสิวหรืออยากฟื้นฟูหน้าเป็นหลุมสิวให้ดีขึ้นด้วยตัวเองที่บ้าน มีแนวทางปลอดภัยที่แพทย์แนะนำและเห็นผลจริง โดยแต่ละวิธีสามารถใช้เดี่ยวๆ หรือควบคู่กันเพื่อเสริมประสิทธิภาพแก้หลุมสิวได้ดีขึ้น
1. การใช้วิตามินซี (Vitamin C)
วิตามินซีช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมผิวและช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น ควรเลือกใช้เซรั่มวิตามินซีที่มีความเข้มข้นอย่างน้อย 10% และทาต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดรอยหลุมสิวแบบค่อยเป็นค่อยไป
2. การใช้ AHA หรือ BHA
AHA และ BHA เป็นกรดผลัดเซลล์ผิวที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่และผลัดผิวชั้นนอกให้เรียบขึ้น เลือกใช้ครีมรักษาหลุมสิวหรือผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นต่ำและเหมาะกับสภาพผิว เพื่อป้องกันการระคายเคือง
3. การใช้เรตินอล (Retinol)
เรตินอลเป็นอนุพันธ์วิตามินเอที่มีคุณสมบัติช่วยเร่งผลัดเซลล์ผิวและฟื้นฟูสภาพผิวหน้าที่เป็นหลุมสิว เมื่อใช้เป็นประจำจะช่วยให้ผิวเรียบเนียนและลดโอกาสการเกิดหลุมสิวใหม่
4. การใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้น
มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีไฮยาลูรอนิก แอซิด หรือสารสกัดธรรมชาติจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวให้ดูเรียบขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวตื้นหรือต้องการป้องกันผิวแห้งลอก
5. การใช้ครีมกันแดด
การปกป้องผิวจากรังสี UV โดยใช้ครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไปเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะรังสี UV จะทำให้รอยหลุมสิวเข้มขึ้นและยากต่อการรักษาครีมลดหลุมสิวที่ดีควรใช้คู่กับครีมกันแดดเสมอ
6. การใช้ยาทารักษาหลุมสิว
เลือกใช้ยาทาที่มีสารผลัดเซลล์ผิวเช่น กรดแลคติก หรืออนุพันธ์กรดวิตามินเอที่ได้รับการรับรองจากแพทย์ เพื่อช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นอย่างปลอดภัย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ทุกครั้ง
7. การดื่มน้ำให้เพียงพอ
ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้วจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและแข็งแรงขึ้น ลดโอกาสการเกิดหลุมสิวใหม่ และเสริมประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ใช้ในแต่ละวัน
8. การมาสก์หน้าด้วยสมุนไพรธรรมชาติ
มาสก์หน้าด้วยสมุนไพรธรรมชาติ เช่น ใบบัวบก ว่านหางจระเข้ หรือมะเขือเทศที่มีกรด AHA ตามธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูผิวลดรอยหลุมสิวและกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
9. การใช้ลูกกลิ้งนวดหน้า (Derma Roller)
ลูกกลิ้ง Derma Roller จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนด้วยการสร้างบาดแผลขนาดเล็กใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดกระบวนการซ่อมแซมตัวเอง แต่ควรเลือกอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและดูแลความสะอาดอย่างเคร่งครัด
10. การทานยา และทานวิตามิน B5 หรือ Zinc
การเสริมวิตามิน B5 และ Zinc ช่วยลดโอกาสเกิดสิวใหม่และส่งเสริมกระบวนการซ่อมแซมผิว แต่ควรทานตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่ต้องการ
11. การทำ Microneedling ที่บ้าน
Microneedling ที่บ้านเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ กระชับรูขุมขนและฟื้นฟูหลุมสิว แต่ต้องดูแลเรื่องความสะอาดและเลือกเครื่องมือคุณภาพสูงเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
12. การทานอาหารที่มีประโยชน์
อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี โอเมกา 3 และสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยเสริมสร้างกระบวนการซ่อมแซมผิวลดรอยหลุมสิวและเสริมความแข็งแรงของผิวจากภายใน
การแก้หลุมสิว ด้วยหัตถการ มีวิธีไหนบ้าง?
ในกรณีที่หลุมสิวลึกหรือรอยบุ๋มชัดเจนการรักษาหลุมสิวด้วยหัตถการทางการแพทย์จะช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างตรงจุดและปลอดภัย โดยแต่ละวิธีควรได้รับการประเมินและดูแลจากแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง
แก้หลุมสิวด้วย Picosure Pro
Picosure Pro เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ใช้พลังงานความถี่สูงในช่วงเวลาสั้นมาก ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิวได้อย่างตรงจุด เหมาะสำหรับการแก้ไขหลุมสิวที่เป็นรอยลึกหรือฝังแน่น พร้อมช่วยลดรอยดำจากหลุมสิวได้ในคราวเดียวกัน
>> ทำความรู้จักโปรแกรม Picosure Pro เพิ่มเติม!
แก้หลุมสิวด้วย Potenza
Potenza เป็นเครื่องมือที่ใช้คลื่นวิทยุแบบ Fractional RF เพื่อส่งพลังงานเข้าสู่ชั้นผิวได้ลึก ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและเติมเต็มร่องหลุมสิวให้ผิวดูเรียบเนียน เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้หลุมสิวพร้อมยกกระชับผิวหน้าในคราวเดียว
>> ทำความรู้จักโปรแกรม Potenza เพิ่มเติม!
วิธีการป้องกันการเกิดหลุมสิว
การป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะง่ายกว่าการรักษา หากคุณเริ่มดูแลผิวอย่างถูกต้องตั้งแต่มีสิวหรือก่อนสิวอักเสบ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นและหลุมสิวระยะยาว
- ล้างหน้าให้สะอาดเสมอ: เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่อาจก่อให้เกิดสิว
- งดการบีบ แกะ เกา สิว: เพราะเป็นสาเหตุหลักของการเกิดแผลหลุมสิว
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์อ่อนโยน: ครีมรักษาหลุมสิวและครีมลดหลุมสิวควรเหมาะกับสภาพผิว
- ปกป้องผิวจากแสงแดด: ทาครีมกันแดด SPF สูงอย่างสม่ำเสมอ
- รับประทานอาหารมีประโยชน์: เน้นผัก ผลไม้และอาหารที่เสริมสร้างผิว
- ดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้ว/วัน: เพื่อให้ผิวแข็งแรงและสมานแผลได้ดี
- ปรึกษาแพทย์ทุกครั้งหากมีสิวอักเสบรุนแรง: เพื่อรับแนวทางรักษาหลุมสิวที่ถูกต้องและปลอดภัย
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการอุดตัน: ตรวจสอบส่วนผสมทุกครั้งก่อนเลือกใช้
สรุป
แก้หลุมสิว ต้องอาศัยความเข้าใจปัญหาอย่างถูกต้อง และเลือกการรักษาหลุมสิวที่เหมาะสมกับแต่ละคน ทั้งนี้ควรดูแลสุขภาพผิวอย่างสม่ำเสมอ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ไม่ระคายเคือง และเน้นปรึกษาแพทย์หากต้องการผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน การรักษาหลุมสิวไม่มีวิธีใดที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน ดังนั้นการประเมินผิวและเลือกแผนแก้หลุมสิวที่เหมาะสม จะช่วยลดโอกาสการเกิดแผลเป็นซ้ำซ้อน และฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียนอย่างมั่นใจ
คำถามที่พบบ่อย
วิธีทําให้หลุมสิวหาย แบบธรรมชาติ?
วิธีธรรมชาติที่ช่วยฟื้นฟูหลุมสิว เช่น การใช้สมุนไพรที่มี AHA ว่านหางจระเข้ หรือมาสก์หน้าด้วยใบบัวบก จะช่วยให้ผิวดูเรียบขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง เหมาะกับหลุมสิวตื้นและผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
มีวิธีฟื้นฟูหลุมสิวอย่างไรบ้าง?
ฟื้นฟูหลุมสิวได้หลายทาง ทั้งการใช้ครีมลดหลุมสิว ผลิตภัณฑ์ที่กระตุ้นคอลลาเจน การทานอาหารที่มีวิตามินซีและอี รวมถึงการทำหัตถการกับแพทย์ เช่น เลเซอร์รอยสิว หรือ Microneedling
รักษาหลุมสิวที่ไหนดี?
เลือกคลินิกที่มีแพทย์เฉพาะทางผิวหนัง และใช้เทคโนโลยีมาตรฐาน เช่น The Signature Clinic ที่มีเครื่อง Picosure Pro หรือ Potenza รวมทั้งทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการแก้หลุมสิว
ทําอย่างไรเมื่อหน้าเริ่มเป็นหลุมสิว?
เมื่อหน้าเริ่มเป็นหลุมสิว ควรงดบีบสิวและหันมาดูแลผิวอย่างถูกต้อง รีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและเริ่มการรักษาหลุมสิวทันที เพื่อป้องกันการเกิดหลุมสิวลึกและรอยแผลเป็นถาวร
รักษาหลุมสิว แบบไหนดีสุด?
การรักษาหลุมสิวที่ได้ผลที่สุดขึ้นอยู่กับลักษณะของหลุมและสภาพผิวแต่ละคน โดยเทคโนโลยีเลเซอร์ เช่น Picosure Pro หรือ Potenza เป็นที่นิยมและให้ผลลัพธ์ที่ดีในปัจจุบัน
การกินคอลลาเจนช่วยเรื่องหลุมสิวได้ไหม?
การทานคอลลาเจนช่วยเสริมสร้างผิว แต่ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันแน่ชัดว่าสามารถฟื้นฟูหลุมสิวได้โดยตรง การดูแลผิวและเลือกการรักษาหลุมสิวที่ถูกต้องจะเห็นผลมากกว่า
กินอะไรให้หลุมสิวตื้นขึ้น?
ควรเลือกทานอาหารที่มีวิตามินซี อี โอเมกา 3 และสารต้านอนุมูลอิสระจากผักผลไม้ ปลา และถั่ว จะช่วยซ่อมแซมผิวและลดโอกาสเกิดหลุมสิวใหม่
“ปรับผิวให้เนียน ด้วย Picosure Pro เทคโนโลยีที่จะฟื้นสภาพผิวให้กลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง”
หากต้องการรักษา ทำไมต้องใช้บริการจาก The Signature Clinic
แก้หลุมสิว อย่างได้ผลต้องเลือกสถานพยาบาลที่มีทีมแพทย์เฉพาะทางและเทคโนโลยีมาตรฐาน The Signature Clinic ให้บริการรักษาหลุมสิวด้วยเครื่องมือทันสมัยอย่าง Picosure Pro ซึ่งช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและฟื้นฟูผิวได้อย่างตรงจุด กับแผนการรักษาเฉพาะบุคคล วิเคราะห์ลักษณะหลุมสิวและวางแผนแบบ Tailored-Madeด้วยทีมแพทย์มากประสบการณ์ การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมพร้อมบริการด้วยความใส่ใจและปลอดภัย เป็นหัวใจสำคัญของการรักษาหลุมสิวอย่างยั่งยืน สำหรับผู้ที่กำลังมองหาวิธีแก้หลุมสิว หรือมีปัญหาหน้าเป็นหลุมสิวสามารถเข้ารับคำปรึกษาและออกแบบแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคลกับแพทย์ของเราได้ทุกเมื่อ