Ulthera vs Thermage vs Linear Lift แตกต่างกันอย่างไร ?
นวัตกรรมยกกระชับผิว ยกกรอบหน้า ลดเลือนริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ด้วยการทำเลเซอร์กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะไม่ต้องพักฟื้น ไม่ใช้เข็ม ไม่เสี่ยงเหมือนกับการทำศัลยกรรม รวมถึงมีการวิจัยรับรองว่ามีมาตรฐาน และความปลอดภัยอีกด้วย แต่นวัตกรรมการยกกระชับผิวนั้นมีหลายรุ่น หลายแบรนด์ แต่ที่ได้รับการยอมรับในด้านผลลัพธ์การรักษาได้แก่ Ulthera, Thermage, และ Linear Lift ซึ่งแต่ละแบรนด์เหล่านี้นั้นก็มีความแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการปล่อยพลังงาน จำนวนชั้นผิวที่พลังงานสามารถส่งลงไปถึง ผลลัพธ์ ระยะเวลา รวมถึงราคาอีกด้วย วันนี้มาดูเปรียบเทียบ Ulthera vs Thermage vs Linear Lift
การทำงานของ Ulthera
Ulthera หรือ Ultherapy (อัลเทอร่า หรือ อัลเทอราปี) เป็นนวัตกรรมยกกระชับที่ใช้คลื่น Ultrasound ซึ่งเป็นคลื่นเสียงที่มีพลังงานความถี่สูง และมีความเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound ) โดยพลังงานสามารถลงไปใต้ชั้นผิว SMAS (ชั้นที่ใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า) โดยจะมีความร้อนที่อยู่ในระดับ 60-70°C ลักษณะพลังงานที่ได้จะเป็นจุดพลังงานขนาด 1 mm ที่มีลักษณะเป็นจุดไข่ปลาเล็ก ๆ เรียงกันเป็นเส้นตรงใต้ผิวทำให้การกระตุ้นการสร้าง Collagen ใหม่ ทำให้ผิวค่อย ๆ เต่งตึง กระชับและเรียบเนียนขึ้น และ Ulthera SPT มีหน้าจอในการดูระดับความลึกของจุดที่ยิงลงไปแบบ Real time ทำให้ทราบถึงชั้นผิวที่พลังงานส่งไปถึง โดยใช้หัวที่มีความลึกถึง 3 ระดับ คือ
- ลึก 1.5 mm สำหรับริ้วรอยผิวชั้นบน ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) และชั้นหนังแท้ (Dermis)
- ลึก 3 mm สำหรับลดความหย่อนคล้อยของผิว กระชับชั้นไขมัน
- ลึก 4.5 mm สำหรับยิงชั้น Smas ที่เป็นผิวหนังชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมผิวหน้า เหมาะสำหรับยกแก้ม เหนียง และลำคอ
การทำงานของ Thermage
Thermage (เทอร์มาจ) อีกหนึ่งนวัตกรรมยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมสูงใช้คลื่นความถี่วิทยุ (non-invasive Radio Frequency RF) เข้าไปลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) และไปกระตุ้นการสร้าง Collagen ขึ้นมาใหม่ ทำให้มีความตึง กระชับ ไม่หย่อนคล้อย และนอกจากนี้ยังช่วยลดไขมันสะสมใต้ผิวหนัง สลายไขมันส่วนเกินบริเวณแก้มและลำคอ (เหนียง) ทำให้ผิวแลดูเรียบเนียน ปรับรูปหน้าเรียวเล็ก โดยมีค่าพลังงานความร้อนอยู่ที่ 40-50°C กระจายเป็นวงกว้าง โดยหัวของ Thermage แบ่งออกเป็น 4 หัว คือ
- Total Tip 3 cm2 เป็นหัวยิงพลังงานที่เหมาะกับการใช้บริเวณใบหน้าและลำคอ ซึ่งเป็นหัวที่ใช้สำหรับเครื่อง Thermage รุ่น CPT
- Total Tip 4 cm2 เป็นหัวยิงพลังงานที่เหมาะกับการใช้บริเวณใบหน้าและลำคอเช่นกัน แต่เป็นหัวยิงที่ใช้กับเครื่อง Thermage รุ่น FLX
- Body Tip 16 cm2 เป็นหัวยิงพลังงานที่เหมาะกับการใช้บริเวณลำตัว เช่น แขน ขา หรือหน้าท้อง เป็นต้น
- Eye Tip 0.25 cm2 เป็นหัวยิงพลังงานที่เหมาะกับการใช้บริเวณที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ ต้องใช้ความละเอียด เช่น ใต้ตา หางตา เป็นต้น
การทำงานของ Linear Lift
Linear Lift by Ultracel Q+ เป็นอีกนวัตกรรมยกกระชับที่มาใหม่ล่าสุดและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะเป็นเทคโนโลยีเดียวในโลก! ที่มีความสามารถในการยกกระชับใบหน้าและสลายไขมันใต้ผิวได้ในเครื่องเดียว ด้วยเทคโนโลยี HIFU (High intensity intensive ultrasound) คลื่นอัลตราซาวน์ความถี่สูงที่ทำให้เกิดความร้อนเป็นจุดเล็ก ๆ เรียงต่อกันเป็นแถว ลงไปยังผิวชั้น SMAS และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้หน้า ยกกระชับ ปรับรูปหน้า ยกคิ้ว ยกหางตา
- สามารถปรับรูปหน้าและแก้ไขปัญหาผิวได้พร้อมกัน
- มีหัวปล่อยพลังงาน 2 แบบไว้ในเครื่องเดียว
- และยังมีหัวยิงถึง 14 หัว ยกกระชับได้ทุกชั้นผิว
- แก้ปัญหาได้ทุกจุด
เลือกแบบไหนดี ?
Ulthera, Thermage และ Linear Lift เลือกแบบไหนดี? ทั้ง 3 เครื่องเป็นนวัตกรรมการยกกระชับ ลดริ้วรอยเช่นเดียวกัน ซึ่งแต่ละเครื่องมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน สำหรับการเลือกว่าเครื่องไหนดีขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการของแต่ละบุคคลครับ ซึ่งหมอจะประเมินว่าคนไข้เหมาะกับการทำแบบไหนถึงจะเห็นผลมากที่สุด
Ulthera จะมีการปล่อยพลังงานเป็นจุดโฟกัสเป็นจุดขนาดใหญ่ สามารถส่งผ่านพลังงานไปที่ชั้นผิวหนังชั้น Smas ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า เหมาะกับคนที่มีชั้นไขมันไม่มากเกินไป ซึ่ง Ulthera ถือว่าเป็นเทคโนโลยียกกระชับเครื่องแรกของโลก และมีการพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน และเป็นเครื่องเดียวที่มีหน้าจออัลตราซาวน์เพื่อให้แพทย์ผู้รักษามองเห็นชั้นผิวที่ต้องการทำการรักษาได้อย่างชัดเจน
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย แต่มีไขมันบริเวณใบหน้าน้อย ไขมันบริเวณแก้มไม่เยอะมาก
- ผู้ที่มีริ้วรอย ร่องแก้มลึก ทำให้ดูแก่กว่าวัย
- กรอบหน้าไม่ชัด ไม่เห็นกราม ต้องการให้เห็นโครงหน้าที่ชัดเจน
- มีปัญหาหนังตาตก หางตาตก ทำให้ดูแก่กว่าวัย
ส่วน Thermage จะเป็นก้อนพลังงานขนาดใหญ่ เด่นในการลดชั้นไขมันเหมาะสำหรับคนที่มีไขมันเยอะ และสามารถทำได้ทั้งหน้าและลำตัว
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย มีไขมันบริเวณใบหน้าและแก้มเยอะ
- ผู้ที่มีริ้วรอย ร่องแก้มลึก
- มีไขมันบริเวณใต้ลำคอเยอะ มีคาง 2 ชั้น
- ผู้ที่มีหนังตาตก
- ผู้ที่ใบหน้าดูแก่กว่าอายุ หมองคล้ำ ไม่สดใส
- ผู้ที่มีปัญหาผิวเหี่ยวย่นบริเวณลำคอ หน้าอก หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และหลังมือ
และ Linear Lift มีคลื่นพลังงานความถี่สูงเป็นจุดเล็ก ๆ เรียงต่อกันเป็นแถว ลงไปยังผิวชั้น SMAS และมีหลายหัวเหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยไม่เยอะมาก มีริ้วรอยเล็ก ๆ หรือยกคิ้ว ยกหางตา ที่เครื่องอื่นไม่สามารถทำได้ และสามารถทำได้ทั้งหน้าและลำตัว
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับผิวหน้าให้เรียวขึ้น
- ผู้มีปัญหาแก้มเยอะ มีเหนียง กรอบหน้าไม่ชัด
- มีปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา หนังตาตก ต้องการยกคิ้วขึ้น
- ผู้ที่ต้องการกระชับรูขุมขน ผิวอิ่มฟู เรียบเนียนและปรับให้มีความกระจ่างใสมากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับ และสลายไขมันบริเวณลำตัวเช่น ต้นแขน หน้าท้อง
- ผู้ที่มีปัญหามุมปากตก มีร่องแก้มลึก
ระยะเวลาเห็นผลหลังทำ
- Ulthera : หลังทำสามารถเห็นผลประมาณ 30% จากนั้นผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามคอลลาเจนใหม่ที่สร้างขึ้น ผิวยกกระชับขึ้นใน 1-2 เดือน และเมื่อผ่านไป 2-3 เดือน จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยผลลัพธ์ของการทำ Ulthera จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี โดยค่าใช้จ่ายในการยกกระชับทั่วหน้าด้วย Ulthera จะอยู่ที่เริ่มต้นตั้งแต่ 50,000 บาท (500 ช็อท) ขึ้นไป แล้วแต่คลินิก
- Thermage : หลังทำสามารถเห็นผลลัพธ์ประมาณ 20% จากนั้นผลลัพธ์ได้ชัดเจนขึ้นในเดือนที่ 2-3 ผิวหน้าจะดูยกและเรียบเนียนขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับจากชั้นผิวมีการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง โดยผลลัพธ์ของการทำThermage จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี
- Linear Lift : หลังทำจะเห็นผลทันทีประมาณ 20-30% และชัดเจนภายใน 1 เดือนจะเห็นผลเต็มที่ 2-3 เดือน ถ้าหลัง 3 เดือนแล้วอยากให้ผิวกระชับมากขึ้น สามารถกลับมาทำซ้ำได้ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี โดยค่าใช้จ่ายในการยกกระชับทั่วหน้าด้วย Linear Lift จะอยู่ที่เริ่มต้นที่ 20,000 บาท (1,000 ช็อท) ขึ้นไป ถือว่ามีความคุ้มค่าในเรื่องจำนวนช็อทที่คนไข้ได้รับ และราคาต่อครั้งที่จับต้องได้มากกว่า Ulthera และ Thermage
ระดับความเจ็บ Ulthera vs Thermage vs Linear Lift
- Ulthera : หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินมาว่าทำ Ulthera มีความเจ็บมาก แต่ในปัจจุบัน Ulthera ได้พัฒนามาเป็นเครื่องรุ่นใหม่ที่ลดความเจ็บปวดลง แต่ก็ยังมีความเจ็บในระดับที่สูงกว่าเทคโนโลยี HIFU อื่น และยังมีหน้าจอในการดูระดับความลึกของจุดที่ยิงลงไปแบบ Real time ทำให้ทราบถึงชั้นผิวที่พลังงานส่งไปถึง และก่อนทำยังมีการแปะยาชาให้ จึงช่วยลดความเจ็บได้มาก ทำให้ขณะทำจะรู้สึกจี๊ด ๆ และอุ่นร้อนบริเวณที่ยิง เเต่เป็นระดับความร้อนที่ทุกคนทนได้ และยังปรับลดพลังงานลงเพื่อลดความเจ็บได้
- Thermage : จะเหมาะสำหรับคนที่ทนความเจ็บได้ในระดับสูงจึงจะคุ้มค่า แต่ก็เป็นความเจ็บที่ทนได้เพราะ Thermage FLX จะมีระบบ Cooling effect ที่ช่วยปล่อยความเย็นขณะทำ เพื่อป้องกันผิวไหม้ เพิ่มความผ่อนคลายให้กับผิว และทำให้เจ็บน้อยลง รวมถึงก่อนทำหมอจะมีการแปะยาชาเพื่อลดความเจ็บครับ
- Linear Lift : คนที่เคยทำ Hifu มาจะบอกว่าเจ็บมากเพราะพลังไปกระทบกระดูก แต่ Linear Lift เป็นนวัตกรรมที่พัฒนามาจาก Hifu เพื่อตอบสนองในการลดความเจ็บปวดระหว่างทำได้ดีมาก ๆ ทำให้มีเพียงความรู้สึกอุ่น ๆ จี้ด ๆ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทายาชาก่อนการรักษา ช่วยลดการเสียเวลาของคนไข้ได้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง และด้วยความที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่สุดในปัจจุบัน การปล่อยพลังงานทำด้วยความเร็วกว่า Ulthera หลายเท่า ทำให้การรับรู้ถึงความเจ็บปวดของคนไข้ลดลงได้เข้าไปอีก ถือว่าเป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
ตารางเปรียบเทียบ Ulthera vs Thermage vs Linear Lift
เครื่อง/เปรียบเทียบ |
Ulthera |
Thermage |
Linear Lift |
คุณสมบัติ | ยกกระชับผิว ยกคิ้ว ยกหนังตา หางตา ลดแก้มห้อย ลดเหนียง ลดริ้วรอยร่องลึกให้ตื้นขึ้น กระตุ้นการสร้าง Collagen ใหม่ ทำให้ผิวค่อย ๆ เต่งตึง กระชับและเรียบเนียนขึ้น | ยกกระชับผิว ลดรอยเหี่ยวย่นช่วยลดไขมันสะสมใต้ผิวหนัง สลายไขมันบริเวณแก้มและลำคอ (เหนียง) ทำให้ผิวแลดูเรียบเนียน ปรับรูปหน้าเรียวเล็ก กระตุ้นการสร้าง Collagen ขึ้นมาใหม่ | ยกกระชับใบหน้าและสลายไขมันใต้ผิว ลดริ้วรอยรอบดวงตา หนังตาตก ยกคิ้ว ยกมุมปากปรับรูปหน้าเรียวเล็ก กระตุ้นการสร้าง Collagen ใหม่ |
พลังงานที่ใช้ | คลื่น Advance-Focused Ultrasound | คลื่นความถี่วิทยุ (non-invasive Radio Frequency RF) | คลื่นอัลตราซาวน์ HIFU (High intensity intensive ultrasound) |
ความลึกของพลังงาน | ผิวชั้น SMAS (ชั้นที่ใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า) | ผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) | ผิวชั้น SMAS (ชั้นที่ใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า) และ ผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) |
ไฮไลต์ | มีความแม่นยำ ไม่ก่อให้เกิดบาดแผล สามารถวางแผนก่อนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีหน้าจอแสดงผลแบบ Real time | ส่งพลังงานความร้อนลงไปถึง 3 ชั้นผิว คือ ชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังเเท้ เเละชั้นไขมันลึก สร้างคอลลาเจนเเละเส้นใยอิลาสตินให้เเข็งเเรง ส่งผลให้ผิวหน้ามีความเเน่นขึ้น ลดไขมันบนหน้า เเละทำให้ชั้นไขมันบางลง | ปรับรูปหน้าและแก้ไขปัญหาผิวได้พร้อมกัน เพราะว่ามีหัวปล่อยพลังงาน 2 แบบไว้ในเครื่องเดียว และยังมีหัวยิงถึง 14 หัว ยกกระชับได้ทุกชั้นผิว แก้ปัญหาได้ทุกจุด |
ระยะเวลาผลลัพธ์ | อยู่ได้นาน 1-2 ปี | อยู่ได้นาน 1-2 ปี | อยู่ได้นาน 1 ปี |
ราคา | มีราคาใกล้เคียงกับการทำ Thermage | มีราคาใกล้เคียงกับการทำ Ulthera | มีราคาถูกกว่าการทำ Ulthera และ Thermage เท่าตัว |