RADIESSE Filler คือ อะไร? นวัตกรรมฉีดผิวกระตุ้นคอลลาเจนสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ที่แข็งแรง

Radiesse Filler ช่วยเติมเต็มผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟิ้นฟูผิวเด็ก

RADIESSE Filler คือ นวัตกรรมใหม่ล่าสุดในกลุ่มการฉีดผิวในประเภทสารเติมเต็ม กระตุ้นคอลลาเจนพร้อมสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ที่แข็งแรง สัมผัสผิวเฟิร์ม เด้งฟู ดูอ่อนเยาว์ ในครั้งเดียว

สรุปทุกเรื่อง Radiesse Filler

อีกขั้นของวงการผิว!! นวัตกรรมใหม่ล่าสุดเติมเต็มพร้อมกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสติน พร้อมสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ที่แข็งแรง สัมผัสผิวเฟิร์ม เด้งฟู ดูอ่อนเยาว์ ยาวนาน 2 ปี ในครั้งเดียว  เป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยบริษัท Merz Aesthetics ซึ่งเป็น 1 ในบริษัทความงามชื่อดังของโลก บทความนี้หมอจะพาทุกคนไปรู้จักกับ RADIESSE ว่าคืออะไร? มีส่วนผสมอะไรบ้างถึงสามารถช่วยให้ผิวเฟิร์ม ดูอ่อนเยาว์ สามารถฉีดที่บริเวณไหนได้บ้าง พร้อมทั้งวิธีดูแลตัวเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ

Radiesse Filler ช่วยเติมเต็มผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟิ้นฟูผิวเด็ก

RADIESSE คืออะไร ?

RADIESSE (เรเดียสซ์) คือ สารฉีดกระตุ้น Regenerative Biostimulator นวัตกรรมล่าสุดในกลุ่มการฉีดผิวในประเภทสารเติมเต็ม (Filling Substance) ชนิดหนึ่งที่มี CaHA: Calcium Hydroxylapatite microsphere (แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทด์) เป็นสารสำคัญในการสร้างเส้นใยตาข่ายผิวกระตุ้นให้เกิดการสร้างใหม่ของคอลลาเจน

ซึ่งมีจุดเด่นพิเศษคือช่วยทั้งเรื่องกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน จึงให้ผลลัพธ์ในการเติมเต็มวอลลุ่มให้ผิวดุอ่อนเยาว์สุขภาพดีแบบเห็นผลทันทีหลังทำ และช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ในระยะยาว

เหมาะในการแก้ปัญหาริ้วรอย และร่องลึกบนใบหน้าที่เป็นค่อนข้างมาก เช่นร่องแก้ม ร่องน้ำหมากรวม รวมไปถึงบริเวณคอและหลังมือ โดยสามารถเข้ากับร่างกายได้ดีและไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย

นอกจากนี้แล้วยังเป็นสารเติมเต็ม CaHA รายแรกและรายเดียวของโลกที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US FDA) ในประสิทธิภาพด้านการยกกระชับ ปรับรูปหน้า พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินให้แก่ผิวอีกด้วย

RADIESSE มีหลักการทำงานอย่างไร ?

 

Regenerative Biostimulator เป็นสารฉีดบริเวณผิวหนังที่ไม่ใช่กรดไฮยาลูโรนิก ปริมาตร 1.5 ซีซี มีสารสำคัญคือแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ ในรูปแบบไมโครสเฟียร์ (Calcium Hydroxyapatite Microspheres, CaHA) ที่คัดเฉพาะขนาด 25-45 ไมครอน ใน RADIESSE หนึ่งโดสประกอบไปด้วย CaHA ปริมาณ 30% หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อนึงว่า “คาห้า” เป็นสารประกอบด้วยฟอสเฟต (Phosphate Ion) และแคลเซียม (Calcium ) ที่พบได้ในร่างกายโดยธรรมชาติอยู่แล้วในร่างกายมนุษย์โดยเฉพาะในกระดูกและฟัน และอีกปริมาณ 70% เป็นสารเนื้อเจล Sodium Carboxymethylcellulose ที่ทำหน้าที่นำพา CaHa เข้าสู่ตำแหน่งที่ฉีด 

โดยสาร CaHA ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์มานานกว่า 25 ปี ดังนั้น synthetic CaHA ของ RADIESSE จึงมีความปลอดภัยสูงสามารถเข้ากับร่างกายได้ดี (Biocompatibility) โดยไม่เกิดการต่อต้านจากระบบภูมิคุ้มกัน (Non-immunogecin Properties) และสามารถสลายไปตามธรรมชาติด้วยระบบ Normal Homeostatic Mechanisms ของร่างกายตามปกติได้ 

เมื่อฉีด Radiesse ที่มีส่วนประกอบเป็น CaHA เข้าไปในชั้นใต้ผิวหนัง ตัวเจลจะไปช่วยเติมเต็มวอลุ่ม ลดร่องลึกต่าง ๆ ทำให้ผิวดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ส่งผลให้ริ้วรอยตื้นขึ้น ผิวเต่งตึง กระชับ และยังเห็นผลได้ทันทีหลังการรักษา

Radiesse filler คือ นวัตกรรมฟื้นฟูผิวที่จัดอยู่ในกลุ่มสารเติมเต็มเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ และยังช่วยสร้างคอลลาเจนใต้ผิวได้ด้วย

ทำไมต้อง RADIESSE ?

 

RADIESSE Filler ทำได้มากกว่ากระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่สามารถช่วยกระตุ้นการสร้าง  “เส้นใยตาข่ายผิว” ครบทั้ง 5 ประการ ที่มีส่วนสำคัญเพื่อผิวอ่อนเยาว์สุขภาพดี

  1. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 ได้ถึง 150% ช่วยเสริมโครงสร้างผิวให้เฟิร์ม กระชับแข็งแรง
  2. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 3 ได้ถึง 130% ช่วยเสริมประสิทธิภาพทำให้โครงสร้างผิวแต่งตึง แข็งแรงร่วมกับชนิดที่ 1
  3. กระตุ้นการสร้างอิลาสตินได้ถึง 260% ส่งผลให้ผิวมีความยืดหยุ่น นุ่มเด้ง
  4. กระตุ้นการสร้างหลอดเลือดเล็ก ทำให้มีสารอาหารหล่อเลี้ยงผิวเพิ่มขึ้น หรือเรียกว่า กระบวนการ Angiogenesis กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตเพื่อผิวสุขภาพดี
  5. กระตุ้นการสร้างสารน้ำหล่อเลี้ยงผิว Proteoglycan ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์
Radiesse ช่วยกระจตุ้น 5 ปัจจัยที่ทำให้ผิวเด็ก

“มอบ 3 ผลลัพธ์ที่เหนือกว่าด้วย CaHA Microsphere เห็นผลทันทีและยาวนานกว่าที่เคย”

หลังการฉีดเข้าสู่ชั้นผิว ผลลัพธ์ที่สามารถพบเจอได้ทันที มีดังนี้

  1. Healthier : ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี แข็งแรง เฟิร์มกระชับยิ่งขึ้น โดยทำให้ผิวเปล่งประกายตั้งแต่ชั้นในสุดออกมายังผิวชั้นนอก
  2. Younger : ช่วยย้อนวัยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ พร้อมเติมเต็มผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง
  3. Longer : ช่วยยืดอายุของผิวให้ดูเด็กลงได้ยาวนานขึ้น และช่วยให้เซลล์ต้นกำเนิดใต้ชั้นผิวทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยไม่เป็นอันตราย

5 จุดเด่นที่ทำไม Radiesse Filler เป็นที่นิยมมาอย่างยาวนาน

  1. ใช้งานสะดวกเนื่องจากอยู่ในรูปแบบเจลในไซริงค์พร้อมสำหรับการฉีด (Pre-Filled Syringe)
  2. ได้รับความนิยมทั่วโลก เนื่องจากมียอดขายมากกว่า 15 ล้านไซริงค์จากทั่วโลก (ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2023)
  3. มีความปลอดภัยสูง แพทย์ทั่วโลกใช้รักษากันมานานกว่า 20 ปี และยังมีงานวิจัยรองรับมากกว่า 245 ฉบับ
  4. น่าเชื่อถือและสามารถวางใจได้ เนื่องจากได้รับการการันตีถึง 3 อย. ได้แก่ UE FDA, US FDA และ THAI FDA รวมทั้งยังได้รับ อย.ในด้านการฉีดมือโดยเฉพาะอีกด้วย
  5. ได้รับความพึงพอใจจากผู้ใช้จริงสูงถึง 90% จากผลสำรวจหลังจากใช้ 1 ปี
5 จุดเด่นที่ทำให้ Radiesse เป็นที่นิยมอย่างยาวนาน

เหมาะกับใคร ? 

RADIESSE เหมาะกับกลุ่มคนที่มีอายุ 30 – 55 ปี หรือมีปัญหาด้านผิวพรรณ ดังนี้

  • มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ เริ่มเห็นการสูญเสียวอลุ่มเล็กน้อย-ปานกลาง
  • มีริ้วรอยแห่งวัยเกิดขึ้น
  • ผิวโทรม แห้ง แลดูหยาบกร้าน ขาดความชุ่มชื้น
  • มีร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก รอยย่นรอบปาก
  • มีปัญหาความเหี่ยวย่นบริเวณ หลังมือ และคอ
  • มีปัญหาเรื่องความเหี่ยวย่นบริเวณ คอ เนินอกสำหรับผู้หญิง
  • มีปัญหารอยแผลเป็น ร่อง หรือหลุม ที่เกิดจากปัญหาผิว เช่นสิว

ไม่เหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่มีประวัติการใช้ยากลุ่ม NSAID ยากดภูมิคุ้มกัน หรือ corticosteriods มานาน
  • มีปัญหาสุขภาพจิต
  • มีโรคทางระบบประสาทสัมผัสในการรับรู้ที่ไม่ดีนัก
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตรอยู่
  • คนไข้โรคเบาหวาน โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคเริม หรือ โรคลมชัก
  • มีประวิติแพ้ยาชา Lidocaine
  • มีประวิติเคยแพ้สารบางชนิดอย่างรุนแรง (Anaphylaxis) มาก่อน เช่น เคยมีผื่นลมพิษ แน่นหร้าอก ความดันโลหิตต่ำ เป็นต้น
  • มีการอักเสบที่ผิวหนัง เช่น ผิวหนังที่มีผื่นขึ้น ถุงซีสต์ สิว ผื่น หรือลมพิษ การติดเชื้อ หรือเนื้องอกในบริเวณใกล้เคียงจนกว่าจะสามารถควบคุมอาการได้
  • ผู้ที่เคยเกิดหรือไวต่อการเกิดคีลอยด์หรือแผลเป็นนูน
  • ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติหรือผู้ที่มีการใช้สารที่ส่งผลต่อการทำงานของเกล็ดเลือด ยาละลายลิ่มเลือด หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด อาจเกิดอาการฟกช้ำ ห้อเลือด หรือมีเลือดออกเฉพาะที่ได้
  • ผู้ที่ใจร้อน ต้องการเห็นผลการรักษาทันที เนื่องจากการฉีด RADIESSE ต้องใช้เวลาให้ร่างกายค่อย ๆ กระตุ้นคอลลาเจน

Radiesse Filler อยู่ได้นานเท่าไหร่?

หลังจากที่ฉีดตัวยาจะเข้าไปเติมเต็มผิวและออกฤทธิ์ยกกระชับผิว ทำให้ร่องลึกเริ่มตื้นขึ้น และริ้วรอยจางลง ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ 1 เดือนแรกที่รับบริการ เห็นชัดเจนขึ้นใน 3 – 6 เดือน โดยผิวจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ผิวแน่นกระชับ และยืดหยุ่นขึ้น ซึ่งโครงสร้างเส้นใยคอลลาเจนที่สร้างขึ้นจะคงอยู่ในระยะยาว และมีคอลลาเจนหนาแน่น แข็งแรง ผิวดูสุขภาพดีได้ยาวนานถึง 2 ปี ทั้งนี้ ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล รวมทั้งตำแหน่งที่ฉีด คุณภาพผิวเดิม และอายุของผู้ฉีดด้วย 

  • สำหรับการฉีดซ้ำ ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เดือน
  • เพื่อผลลัพธ์ที่ดี โดยเฉลี่ยใช้ 2 กล่อง/ครั้ง
  • เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขอแนะนำให้ฉีดต่อเนื่อง 1-3 ครั้ง (ขึ้นกับปัญหาผิว ความหย่อนคล้อย และ ความเสียหายของคอลลาเจน)

โดยสามารถมารับบริการได้ที่ The Signature Clinic เราดูแลโดยแพทย์ผู้มากประสบการณ์ด้านการฉีด พร้อมประเมินและออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ผิวสวยสุขภาพดีมากที่สุด

เปรียบเทียบผลลัพธ์ ก่อนและหลัง ฉีด Radiesse Filler

การดูแลตัวเองก่อนทำ 

  1. ก่อนทำควรงดการรับประทานยาที่ก่อให้เกิดการแข็งตัวของเลือด จำพวกยากลุ่ม NSAIDs หรือแอสไพริน หรืออาหารเสริมจำพวกกิงโกะ
  2. ก่อนทำควรแจ้งประวัติให้แพทย์ทราบโดยละเอียดว่ามีอาการแพ้อะไรหรือมีโรคประจำตัวอะไรหรือไม่
  3. ก่อนทำควรงดสคลับผิว หรือใช้ยารวมทั้งครีมผลัดเซลล์ผิว เพื่อป้องกันการเกิดการอักเสบ 
  4. ก่อนทำควรมีสุขภาพร่างกายที่ดี แข็งแรงและไม่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

และที่สำคัญควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รับ RADIESSE จากผู้ผลิตแท้และการรักษาถูกดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรอง โดยสามารถตรวจสอบได้ผ่าน RADIESSE Certified Injector ที่คลินิกหรือ Merz Check

การดูแลตัวเองหลังทำ

หลังทำแล้วอาจบวมเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีดโดยคนไข้ไม่ต้องกังวลอาการเหล่านี้มักหายเองภายใน 72 ชั่วโมง สำหรับในบางกรณี อาจเกิดรอยช้ำหลังจากการฉีด ซึ่งเป็นปกติเนื่องจากการกระจายสารเติมเต็มบนผิวหนัง

หากสังเกตเห็นผิวหนังแดงหลังการฉีด แนะนำให้ประคบเย็นหรือใช้ยาที่ช่วยลดรอยช้ำ หากผ่านไป 24 ชั่วโมงแล้วและผิวหนังยังคงแดง แนะนำให้ประคบอุ่น ทั้งนี้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและอยู่ได้ระยะยาวหมอขอแนะนำการปฏิตัวดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส การนวดหรือการกดบริเวณที่ถูกฉีด งดการแต่งหน้าอย่างน้อย 12 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการทำหัตถการที่ใช้ความร้อนสูงและงดเข้าห้องซาวน่าอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • งดการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประมาณ 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงยากลุ่มแอสไพริน หรือ NSAID อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน เช่น ซาวน่า และแสงแดดเป็นเวลานาน
  • ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อกระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนควบคู่กันไป
  • เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น แนะนำให้เข้ารับการประเมินผลการรักษา 2-3 เดือนหลังฉีด และอาจมีการฉีดเพิ่มในกรณีที่จำเป็น
Radiesse Filler เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรองรับถึง 3 อย. ด้วยกัน คือ EU,US และ THFDA

ฉีด RADIESSE ใช้เวลานานเท่าใด ?

ในการฉีด RADIESSE  ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง

ตอนฉีดเจ็บหรือไม่ ?

ในขณะฉีดตัวยาจะมีความรู้สึกแสบ หน่วงเล็กน้อย แต่เป็นความรู้สึกที่ทนได้ ซึ่งสำหรับคนที่กลัวความเจ็บสามารถใช้ยาชาเพื่อลดความรู้สึกเจ็บได้เช่นกัน

เหตุผลที่ควรฉีด RADIESSE  ที่ The Signature Clinic

  1. หมอบอลเป็น RADIESSE Trainer ของ Merz Aesthetics. และเราเป็น 1 ใน 100 คลินิกแรกของเมืองไทยที่ให้บริการศาสตร์แห่งการฟื้นฟูผิวตัวล่าสุด นอกจากนี้ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีด้านเลเซอร์ Pico ที่ทันสมัย คนไข้จึงมั่นใจได้ถึงผลลัพธ์ที่ดีและการรักษาที่ปลอดภัย
  2. เป็นคลินิกที่ก่อตั้ง และทำการดูแลโดยทีมแพทย์ผู้มากประสบการณ์ด้านความงาม พร้อมให้คำแนะนำและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลทุกเคส เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและตอบโจทย์ที่สุด
  3. คลินิกใช้ยาแท้ นำเข้าจากบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอย่าถูกต้อง ตรวจสอบได้
  4. มีรางวัลการันตีมากมาย
  5. คลินิกสะอาด ได้รับมาตรฐานจากกระทรวงอย่างถูกต้อง
  6. มีความน่าเชื่อถือ มีรีวิวจากผู้รับบริการจริงมากมาย
  7. มีทีมงานจะคอยแนะนำการดูแลผิว ติดตามผลหลังการรักษา และให้คำปรึกษาอย่างต่อเนื่อง
Share the Post:

บทความอื่น ๆ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
Scroll to Top