Picosure vs Picosure Pro ต่างกันอย่างไร อันไหนดีกว่า [2024]

Picosure vs Picosure Pro ต่างกันยังไง อันไหนดีกว่า

Picosure ที่ว่าเป็นระดับท็อปของแนวหน้าของวงการความงามแล้ว ยังมี Picosure Pro รุ่นใหม่ ที่เป็นนวัตกรรมขั้นกว่าของวงการเลเซอร์ ที่ใช้เวลาพัฒนามาร่วม 10 ปี เพื่อมาปฎิวัติวงการเลเซอร์ จากผู้ผลิตชั้นนำด้านเวชศาสตร์ความงามอย่าง Cynosure ที่ไม่ได้มาเพียงแค่การอัปเดตซอฟต์แวร์ธรรมดาเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนใหม่ยกเครื่อง ด้วยฟังก์ชั่นต่าง ๆ การปรับโหมดพลังงานและ Turbo mode ที่ให้พลังงานสูงขึ้น ได้ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นกว่ารุ่นเดิมสูงถึง 3 เท่า ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการรู้เรื่องของ Picosure และ Picosure Pro ว่าคืออะไร แตกต่างกันอย่างไร แก้ได้ปัญหาอะไร เหมาะกับใคร ราคาจะเป็นอย่างไร เราได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาคัดสรรให้แล้วครับ

Picosure คืออะไร

Picosure เป็นเลเซอร์ที่ใช้สำหรับการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับเม็ดสีที่ผิดปติ โดยพลังงานสูงด้วย อย่างแม่นยำด้วย Focus lens ด้วยหลักการ Photoacoustic Therapy ที่ใช้ตัวปล่อยคลื่นแสงด้วยความเร็วสูงถึง 1 ต่อล้านล้านวินาที และมีความยาวคลื่น 755 นาโนเมตร ทำให้เม็ดสีแตกตัวออกได้อย่างละเอียดและถูกทำลายได้ไวมากกว่ารุ่นอื่น ทำให้ได้ผลลัพธ์การรักษาดีมากขึ้น เหมาะกับการรักษาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของเม็ดสีที่ผิดปกติ

Picosure Pro คืออะไร

Picosure Pro เป็นนวัตกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนามาจาก Picosure รุ่นเดิมมานานร่วม 10 ปี ให้ประสิทธิภาพที่สูงมากขึ้นกว่าเดิม สามารถทำลายเม็ดสีได้มากกว่ารุ่นเดิม 3 เท่า มีจุดเด่นที่เป็น Picosecond Laser เครื่องแรกและเครื่องเดียวที่ได้รับรอง US FDA-cleared ในการรักษาได้เช่นเดียวกับรุ่นเดิมแต่มีความสามารถในการรักษาที่มากกว่า เช่น

• ฝ้า (Melasma) 
• กระลึก (Freckle) 
• ปานโอตะ (Nevus of Ota) 
• ปานโฮริ (Nevus of Hori) 

โดยยังไม่มีเครื่องอื่นที่ได้รับการรับรองการรักษาปัญหาเหล่านี้เหมือนกับ Picosure Pro และยังมีความยาวคลื่นพิเศษ 755 นาโนเมตร และยังสามารถปรับพลังงานได้ตามความเหมาะสม โดยยังไม่สามารถพบได้จากเครื่อง Pico รุ่นอื่น ๆ  พร้อมทั้ง Platinum Focus™ lens ที่มีหัวเลนส์ขนาดเพียงแค่ 5 mm. ทำให้มีความจำเพาะและสามารถจับกับเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ได้ดีกว่าและสูงขึ้นมากกว่า โดยไม่ทำให้ผิวบริเวณอื่นบาดเจ็บ โอกาสเกิดปัญหารอยหลังทำเลเซอร์จึงต่ำมาก

เทคโนโลยี Picosure vs Picosure Pro

Picosure Pro มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่น Picosure เดิมทำให้ผลลัพธ์แตกต่างอย่างชัดเจนเนื่องจาก

• Picosure Pro เป็นเครื่องที่ทำงานไวกว่ารุ่น Picosure เดิม เนื่องจากมีโหมดพลังงานใหม่ที่เรียกว่า Turbo Mode ทำให้เครื่องสามารถปล่อยพลังงานได้แรงยิ่งขึ้น ประสิทธิภาพในการักษาจึงดีขึ้น 
• Picosure Pro เป็นเครื่องแรกและเครื่องเดียวที่ได้รับรองจาก US FDA-cleared ในการรักษาปานโอตะ (Nevus of Ota) และปานโฮริ (Nevus of Hori) 
• Picosure Pro ส่งพลังงานที่สูงกว่า Picosure ต่างกันถึง 100 mj จึงเห็นผลลัพธ์ได้ไวขึ้นด้วยจำนวนการยิงที่ลดลง จึงครอบคลุมปัญหาได้มากขึ้น การซื้อน้อยลง
• Picosure รุ่นเดิมมีหัวยิงเป็น FOCUS™ Lens Array ที่สามารถปล่อยพลังงาน 80,000 ช็อตส่วน Picosure Pro จะใช้เป็น Platinum Focus™ lens ที่มีพลังมากกว่าเดิมถึง 112,000 ช็อต
• Picosure รุ่นเดิมจะมีหัวยิงขนาด 6, 8, 10 mm. แต่ในรุ่น Picosure Pro จะมีขนาด 5, 6, 8, 10 mm. ทำให้การส่งพลังงานจึงต่างกัน 
• Picosure Pro สามารถปรับระดับพลังงานให้เบาลงได้มากกว่า Picosure จึงลดการเกิดการบาดเจ็บได้ดีมากกว่า ใช้ในการปรับให้เหมาะสมกับบางตำแหน่งได้

ปัญหาที่สามารถแก้ได้ Picosure vs Picosure Pro

Picosure สามารถช่วยฟื้นฟูผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ โดยใช้ได้กับทุกสภาพผิว 

• การกำจัดเม็ดสี
• การรักษาฝ้า
• การรักษากระแดด
• การรักษารอยสิว  รอยแผลเป็น
• การรักษารูขุมขน
• การรักษาจุดด่างดำ รอยดำ
• การลบรอยสัก
• การปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ 
• การปรับให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

Picosure Pro สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวเช่นเดียวกับรุ่นเดิม แต่มีความครอบคลุมมากกว่า ได้ผลดีขึ้นและเร็วกว่าเดิมด้วยจำนวนการยิงที่ลดลง จึงแก้ไขปัญหาได้ดีมากกว่ารุ่นเดิม ประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นเดิม โดยไม่ทิ้งรอยแผล ดังนี้

• การกำจัดเม็ดสี
• การรักษาฝ้า
• การรักษากระลึก
• การรักษารอยสิว รอยแผลเป็น
• การรักษารูขุมขน
• การรักษาจุดด่างดำ รอยดำ
• การลบรอยสักที่รักษายาก
• การปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ 
• การปรับให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
• การรักษาปานโอตะ
• การรักษาปานโฮริ

ราคา Picosure vs Picosure Pro

การรักษาด้วย Picosure โดยปกติราคาอยู่ที่ประมาณหลักหมื่นขึ้นไป จะขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไข แต่ในการใช้รักษาเฉพาะจุดเล็ก ๆ ราคาก็จะลดลงมาเหลือเพียงหลักพัน ตามปริมาณของจำนวนและตำแหน่งที่ต้องการแก้ไข โดยมีราคาต่อครั้งเริ่มต้นตั้งแต่ 1,000-20,000 บาทโดยประมาณ

การรักษาด้วย Picosure Pro จะมีราคาแตกต่างออกไปตามตำแหน่ง และจำนวนครั้ง โดยจะแบ่งออกเป็น

• คอร์สเฉพาะจุด 3 ครั้ง ราคาประมาณ 28,000 บาท 
• คอร์สทั่วใบหน้า 3 ครั้ง ราคาประมาณ 45,000 บาท

นอกจากราคาที่เป็นตัวกำหนดในการตัดสินใจเลือกใช้บริการแล้ว ยังควรต้องพิจารณาจากความปลอดภัยเป็นหลักอีกด้วย หากเลือกคลีกนิกที่ไม่ได้มาตรฐาน การรักษาเพื่อแก้ไขอาจมีราคาที่สูงกว่าราคาที่ทำก็เป็นได้ ดังนั้นควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล มีแพทย์ผู้ชำนาญการ และมีประสบการณ์ในการใช้เครื่องเป็นอย่างดี

เหมาะกับใคร Picosure vs Picosure Pro

ทั้งโปรม Picosure และ Picosure Pro สามารถรักษาปัญหาได้ใกล้เคียงกัน คือการรักษาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเม็ดสีที่ทำงานผิดปกติ มีความแม่นยำสูงกว่าการใช้ใบมีดผ่าตัด เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่การรักษาด้วย Picosure Pro จะเห็นผลลัพธ์ได้ดีกว่ารุ่นเดิม ใช้เวลาน้อยกว่า จำนวนการยิงน้อยกว่า และมีประสิทธิภาพมากกว่าอย่างชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาที่เกิดจากเม็ดสีผิดปกติอย่างกระตื้น กระลึก กระแดด 

 Picosure มีความละเอียดที่ค่อนข้างสูง เมื่อเปรียบเทียบกับเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นอื่นๆ ทำลายเนื้อเยื่อเฉพาะจุดที่ต้องการได้ โดยไม่ทำร้ายผิวบริเวณรอบ ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาปัญหา ดังนี้

• เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาฝ้า กระแดด จุดด่างดำ รอยสัก
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาแผลเป็น
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระชับรูขุมขน ริ้วรอย
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับเฉดสีผิวให้สม่ำเสมอกัน
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ

Picosure Pro เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ไวกว่า และระยะเวลาสั้นกว่าตัวเครื่อง Picosure รุ่นเดิม โดยใช้จำนวนการยิงที่น้อยกว่า ผลลัพธ์จึงดีกว่า สามารถแก้ปัญหาได้เหมือนกับรุ่นเดิม แต่ครอบคลุมมากกว่า เช่น

• กระลึก
• รอยสักที่รักษายาก
• ปานโอตะ
• ปานโฮริ
• รอยสิว หลุมสิว
• ฝ้าหนา 

ตารางเปรียบเทียบ

การเปรียบเทียบ Picosure และ Picosure Pro ดังตาราง ดังนี้