โปรแกรม MCL31 Dermablate เลเซอร์ Erbium:YAG ระดับ Gold Standard
MCL31 Dermablate คืออะไร?
MCL31 Dermablate เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ชนิด Fractional Erbium:YAG ความยาวคลื่นที่ 2940nm ที่เป็นมาตรฐานระดับ Gold Standard ที่มาทดแทนเทคโนโลยีรุ่นเก่าคือเครื่องเลเซอร์ CO2 laser โดย MCL31 เป็น Erbium:YAG ที่มีความแม่นยำและปลอดภัยสูงในการรักษาหลุมสิว รอยแผลเป็นจากสิว ผิวหน้าขรุขระไม่เรียบ ตัดไฝ ติ่งเนื้อ กระเนื้อ และต่อมไขมัน ได้โดยลดระยะเวลาพักฟื้นได้เป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่นๆ แผลที่ยิงโดย MCL31 Dermablate จะคมสวย ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและการเกิด PIH ได้เป็นอย่างดี โดยผลลัพธ์อาจมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
MCL31 Dermablate ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างครอบคลุม แก้ไขปัญหาหลุมสิว และลดเลือนริ้วรอยได้โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง บาดแผลที่เกิดขึ้นจึงมีขนาดเล็กระดับไมครอน ละเอียดถึง 169 จุดต่อการยิงหนึ่งครั้ง ทำให้ระยะเวลาพักฟื้นน้อยกว่าการรักษาด้วย Fractional laser ทั่วไป
โหมดการรักษา Fractional และ Full skin resurfacing ของ MCL31 Dermablate คือ การฟื้นฟูสภาพผิวด้วย Ablative mode โดยการผลัดเซลล์ผิวแบบ Full skin resurfacing รวมถึงการตัดรอยโรคต่างๆ ด้วยความสามารถของไมโครเลนส์ที่แม่นยำและละเอียด ทำให้สามารถจัดการกับรอยโรคได้หลากหลาย ทั้งยังอ่อนโยนต่อผิวและมีความปลอดภัยสูง
โหมด Scar treatment สามารถรักษารอยฟกช้ำ รอยหลุมสิว หรือรอยจากโรคสุกใส ที่มักทิ้งรอยแผลเป็นให้กวนใจ การรักษาใช้เวลาเพียง 15 นาที ก็สามารถฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียน เพิ่มความมั่นใจให้กับคนไข้ได้อีกครั้ง
ปัญหาที่นิยมใช้โปรแกรม MCL31 Dermablate จัดการ คือ ยิงเพื่อผลัดเซลล์ผิว (Rejuvenation) ยิงเพื่อลดริ้วรอยรอบตา ยิงรอยหลุมสิว ยิงขี้แมลงวัน ไฝ ติ่งเนื้อ กระเนื้อ ไขมันที่เปลือกตา สิวหิน สิวข้าวสาร และ คีลอยด์
การรักษาหลุมสิวด้วย CO2 laser vs Erbium:YAG
การรักษาหลุมสิวด้วยเครื่องมือแพทย์โดยหลักการแล้ว จะเป็นการทำลายพังพืดที่ดึงรั้ง (สาเหตุของหลุมสิวและผิวขรุขระ) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นกระบวนการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ ใช้เวลาในการฟื้นฟูมากน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละเทคโนโลยี และการดูแลตัวเองโดยการทายา ทาครีมบำรุง ร่วมกับการป้องกันผิวจากแสงแดด โดยหลักๆ เลเซอร์รักษาหลุมสิว มีดังนี้
CO2 laser (เลเซอร์ CO2)
เป็นพลังงานสกัดจากคาร์บอนไดออกไซค์ ตัวจับจุดคือน้ำ เป็นการทำลายเผาให้หายไป เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- ข้อเสียของ CO2 laser คือ การที่พลังงานจะเข้าไปถึงจุดที่ต้องการใช้เวลานาน เลยทำให้เกิดรอยดำได้ง่ายในบริเวณรอบๆ จุดที่ยิง
- ข้อดีของ CO2 laser คือ ราคาถูก รอยหลุมสิวดีขึ้นจริง แต่ทำให้เกิดรอยดำง่าย และใช้เวลาพักฟื้นนาน ประมาณ 2-4 สัปดาห์
Erbium:YAG laser
เป็นพลังงานที่จับน้ำได้ดีที่สุด เป็นการทำลายเผาให้หายไป พลังงานลงได้ลึกมากๆ สามารถใช้ตัดพังผืดในหลุมสิวที่ลึกมากๆ ได้ดีมาก
- ข้อเสียของ Erbium:YAG laser คือ ระหว่างทำไม่เจ็บ แต่จะรู้สึกร้อนๆ ใต้ผิวหลังทำประมาณ 30-60 นาที โดยมีราคาแพงกว่า CO2 laser
- ข้อดีของ Erbium:YAG laser คือ รอยหลุมสิวลึกดีขึ้น เห็นผลชัดเจน และใช้เวลาพักหน้าเพียง 3-5 วัน แผลสวย โอกาสเกิด PIH หรือรอยดำหลังยิงเลเซอร์ต่ำ