Ulthera คืออะไร? ทำไมต้อง Ultherapy รวมทุกข้อมูลก่อนทำอัลเทอร่า [2024]

เพิ่งจะอายุแค่นี้ ทำไมผิวถึงได้แก่กว่าวัยได้ขนาดนี้ หลาย ๆ คนอาจกำลังเจอกับปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง ไม่กระชับ แลดูเหี่ยวแบบนี้อยู่ใช่ไหมคะ วันนี้จะมาบอกเคล็ดลับผิวดีจากภายในสู่ภายนอก ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการผ่าตัดยกกระชับในชั้น SMAS โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้นให้เสียเวลา ด้วยเทคโนโลยี Ultherapy หรือที่รู้จักว่า Ulthera ที่เหมาะสำหรับการยกกระชับที่ดีที่สุด สามารถช่วยกระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดสัดส่วน ปรับกรอบหน้าให้ชัดเจนขึ้น ใบหน้าดูกระชับ เต่งตึง และยังทำให้ผิวใสขึ้นอีกด้วย เลยอยากจะมาแนะนำเทคโนโลยีดี ๆ แบบนี้ให้ได้รู้จักกันครับ

Ultherapy คืออะไร

Ultherapy หรือ Ulthera เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวได้อย่างตรงจุด ด้วยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์  (Ultrasound) ที่ใช้นวัตกรรมคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเฉพาะเจาจง (Focused Ultrasound) ทำให้เกิดความร้อนประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส ลงไปกระตุ้นที่ชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ที่อยู่ชั้นลึกถัดไปจากชั้นไขมันโดยตรง ซึ่งเป็นชั้นเดียวกันกับที่ใช้ในการผ่าตัดกระชับใบหน้า สามารถช่วยให้ผิวที่หย่อนคล้อยยกกระชับขึ้น เทียบเท่าการผ่ากระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดและพักฟื้น และผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ยาวถึง 1-2 ปี โดยหลังทำจะไม่ทิ้งรอยแผลบนใบหน้า และสามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้า รอบดวงตา แก้ม ใต้คาง หรือเหนียง ลำคอ ผิวหน้าอก หน้าท้อง และ ท้องแขน เป็นต้น

นวัตกรมนี้ยังผ่านมาตรฐานจาก อย.อเมริกา (US FDA) เป็นที่ยอมรับจากแพทย์ผิวหนัง และแพทย์ศัลยกรรม อย่างกว้างขวาง และที่สำคัญต้องจะต้องเลือกคลินิกที่มั่นใจว่าอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลจากแพทย์ผู้ชำนาญการ โดยคลินิกของเรา ได้รับรองตามมาตรฐาน และได้รับอนุญาต การันตีความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่เข้ารับบริการ และมีใบประกาศจากบริษัทตัวแทนนำเข้า Merz Aesthetics Thailand ที่รับรองว่าเราใช้เครื่องแท้อีกด้วย

Ultherapy หรือ Ulthera เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวได้อย่างตรงจุด ด้วยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์  (Ultrasound)

 

Ulterapy SPT 

Ulterapy SPT เทคนิคที่ดีกว่าเดิมต้อง The Signature Clinic ที่เป็นนวัตกรรมการยกกระชับใบหน้า โดยเป็นเทคนิคที่่ผ่านการศึกษามาอย่างดีว่าสามารถทำให้ผิวของผู้รับการได้ผลลัพธ์ที่กว่าด้วยผิวหน้าที่ยกขึ้นอย่างพอดีสำหรับรูปหน้า โดยแพทย์จะทำการประเมินรูปหน้าก่อนว่าควรใช้หัวแบบไหนเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาพอดีสำหรับการยิงสู่ชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ที่อยู่ชั้นลึกถัดไปจากชั้นไขมันโดยตรง 

SPT ย่อมาจาก SEE

S = SEE จอที่แสดงผลให้เห็นอย่างเรียลไทม์ สามารถมองเห็นปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด

P = PLAN การวางแผนเพื่อใช้เฉพาะบุลลค ให้ได้ผลลัพธ์สำหรับรูปหน้านั้น ๆ อย่างดีทีสุด

T = TREAT การรักษาตามแผนที่วางไว้ ให้ยกกระชับอย่างมั่นใจ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีสุด 

Ulthera เหมาะสำหรับใคร

  • เหมาะกับผู้ที่อายุ 25 ปีขึ้นไป
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อยคล้อย ไม่กระชับ ไม่เต่งตึง มีริ้วรอย
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้กรอบปรับรูปหน้าแลดูชัด หน้าเรียวดูมีมิติ กรอบหน้าชัดขึ้น
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวใต้คางหย่อนคล้อย และแก้มห้อย กลับมาดูเรียบตึง
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิว กระชับรูขุมขน ผิวเรียบเนียน
  • เหมาะกับผู้ที่อยากรักษาถึงผิวชั้นลึกแต่ไม่อยากผ่าตัด
  • เหมาะกับผู้ที่อยากรักษาร่องแก้ม ร่องมุมปาก แก้มหย่อนคล้อย
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระชับเหนียง คางที่เป็นชั้นออกมา และลำคอให้กระชับ
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยรอบดวงตา คิ้ว หางตา ถุงใต้ตา

Ulthera สามารถทำบริเวณไหนได้บ้าง

Ultherapy สามารถยกกระชับผิวให้แน่นขึ้นได้ในทั้งบริเวณผิวหน้าและร่างกายเลยทีเดียว โดยหมอจะแนะนำ 6 จุดที่นิยมทำมากที่สุดมาแนะนำกันครับ

  • บริเวณกรอบหน้า สามารถเก็บเนื้อที่กวนใจให้กระชับ ทำให้เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น หน้าดูเด็กขึ้น
  • บริเวณคิ้ว เนื่องจากคิ้วที่ตกลงทำให้หน้าดูมีอายุขึ้น สามารถช่วยยกหางคิ้วขึ้น ตาดูโตขึ้น สดใสขึ้นได้
  • บริเวณเหนียงใต้คาง สามารถทำให้หน้าดูเรียว มีกรอบหน้า รอย่อนที่คอกระชับขึ้น
  • บริเวณรอบดวงตาที่มีปัญหาถุงใต้ตาใหญ่ หย่อนคล้อย ให้แลดูกระชับมากขึ้น ถุงใต้ตาเล็กขึ้นดูเด็กลง
  • บริเวณคอที่มีเนื้อหย่อนคล้อย ไม่กระชับ สามารถทำให้ยกกระชับ ผิวดูเด็กขึ้น มักพบในวัย 40 ปีขึ้นไป
  • บริเวณเนินอก เหี่ยว ไม่กระชับ มีริ้วรอยมากขึ้น มักพบในวัย 50 ปีขึ้นไป นอกจากนั้นสามารถทำได้ในเคสที่มีปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย

Ulthera สามารถยกกระชับผิวให้แน่นขึ้นได้ในทั้งบริเวณผิวหน้าและร่างกาย

Ultherapy ต้องทำกี่ครั้ง ครั้งหนึ่งใช้เวลาเท่าไร

การทำ Ultherapy สามารถอยู่ได้ยาว ๆ ถึง 1 ปีเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของผู้ที่มาทำด้วย แต่ในการทำซ้ำก่อนจะครบกำหนด 1 ปี นั้นก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากการทำ Ultherapy นั้นเป็นมากกว่าการยกกระชับ แต่ยังเป็นการรกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen) ทำให้ผิวหน้าอิ่มฟู เรียบเนียบ และดูเด็กลงยิ่งขึ้นไปได้อีกด้วย

Ulthera อันตรายไหมมีผลข้างเคียงหรือไม่ ?

การทำหัตถการด้วยนวัตกรรมที่นำสมัยอย่างตัว Ulthera ที่เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิว จากอเมริกา (USA) ที่มีความปลอดภัยสูง ผ่านมาตรฐานจาก อย.อเมริกา (USFDA) เป็นที่ยอมรับจากแพทย์ผิวหนัง และแพทย์ศัลยกรรม อย่างกว้างขวาง แต่ต้องมั่นใจว่าอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลจากแพทย์ผู้ชำนายการ โดยจะต้องเลือกคลินิก ที่น่าเชื่อถือตามมาตรฐาน และได้รับอนุญาตเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่เข้ารับบริการ

เพราะถึงแม้ว่าความปลอดภัยของเทคโนโลยีนั้นจะเป็นที่ยอมรับ แต่แพทย์ผู้ให้การรักษาก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลให้การรักษาได้ผลดีหรือมีความปลอดภัยสูงสุดหรือไม่ เพราะการทำ Ultherapy หากไม่ระวังอาจทำให้เกิดการเบิร์นของผิวชั้นบนได้ โดยคลินิกของเราได้รับรองตามมาตรฐาน และได้รับอนุญาต และผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่เข้ารับบริการ

Ulthera ที่เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิว จากอเมริกา (USA) ที่มีความปลอดภัยสูง

Ulthera ต่างจาก Hifu อย่างไร

Ulthera เป็นตัวเครื่องที่สามารถใช้คลื่นพลังงานขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับผู้ที่อายุ 25 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยตั้งแต่เล็กน้อย ปานกลาง ไปจนถึงผิวหน้าที่มีความหย่อนคล้อยมากได้เลย และสามารถเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่หลังทำครั้งแรก ไม่ต้องพักฟื้น สามารถทำเพียงแค่ปีละ 1 ครั้งเนื่องจากผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ยาวถึง 1-1.5 ปี ขณะทำยิงเลเซอร์อาจมีอาการเจ็บ ๆ หน่วง ๆ แต่จะมีการใช้ยาชาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดให้ก่อนลงมือทำ ซึ่งต่างจาก HIFU คือ

HIFU เป็นตัวเครื่องที่ให้พลังงานคลื่นขนาดเล็ก เหมาะสำหรับผู้ที่อายุ 25 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยตั้งแต่เล็กน้อย ไปจนถึงปานกลาง และหลังทำทันทีสามารถเห็นผลลัพธ์ได้เพียงแค่ 20-30% หลังทำเสร็จ และจะชัดเจนขึ้นใน 2-3 เดือน และควรทำซ้ำทุก 2-3 ครั้งต่อปี เนื่องจากผลลัพธ์ที่ได้สามารถอยู่ได้เพียง 5-6 เดือนเท่านั้น ขณะทำจะไม่มีอาการเจ็บปวด หรือมีอาการน้อยมาก 

การเตรียมตัวก่อนทำ Ultherapy

  • เข้ามาปรึกษาและประเมินตำแหน่ง ว่าต้องการให้ช่วยรักษาจุดใด โดยแจ้งตำแหน่งอย่างแม่นยำและชัดเจน เพื่อกำหนดจำนวนช็อตส์ในการปล่อยพลังงาน
  • ผู้ที่เข้ารับบริการควรหลี่เลี่ยงแสงแดด งดกิจกรรมที่อาจส่งผลต่อการไหลเวียนของโลหิต เช่น สปา ซาวน่า อบไอน้ำ แช่น้ำร้อน เป็นต้น
  • ผู้ที่เข้ารับบริการควรหยุดรับประทานยา และอาหารเสริม เช่น ยากลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs)
  • ผู้ที่เข้ารับบริการงดทาครีมที่เกี่ยวกับการผลัดเซลล์ผิวอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น สารเรตินอล (Retinols) เรตินอยด์ (Retinoid) Tretinoin (retin-A) เป็นต้น
  • งดใช้วิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก หรือทำให้ร่างกายร้อนเป็นอย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ เช่น สารสกัดจากขิง โสม และกระเทียม, วิตามินอี, น้ำมันปลา เป็นต้น
  •  แจ้งโรคประจำตัว ประวัติสุขภาพ ประวัติแพ้ยา แพ้อาหาร แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบถึงยาประจำตัวที่กำลังรับประทานอยู่ทุกชนิด เพื่อป้องกันผลกระทบหลังทำหัตถการ
  • ผู้ที่เข้ารับบริการควรงดแต่งหน้า หรือแต่งหน้าอ่อนๆเนื่องจากต้องดูสภาพผิว และก่อนทำต้องมีการล้างหน้าให้สะอาดเพื่อ แปะยาชาก่อนทำ

หลังทำ Ultherapy เห็นผลเลยไหม ?

การทำ Ultherapy จะสามารถเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงหลังทำ และจะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นโดยจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในอีก 2-3 เดือน หลังทำ และผลลัพธ์นี้จะสามารถอยู่ได้ยาวนานถึง 1-1.5 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลของผู้รับบริการ ถ้าหากอยากให้ผลลัพธ์คงอยู่ยาว ๆ ควรต้องทำซ้ำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป

การปฏิบัติตัวหลังทำ Ultherapy

หลังจากที่ทำ Ultherapy ควรปฎิบัติตัวอย่างไรให้ผลลัพธ์อยู่กับเราไปนาน ๆ ควรปฎิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้ค่ะ

  • ในบางคมอาจมีผิวแดงเล็กน้อยในบริเวณที่ทำได้ และในบางรายอาจมีอาการบวม เจ็บได้ แต่จะหายไปได้เองหลังทำประมาณ 1-2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการนวดหน้า บีบ กด หรือถูแรง ๆ  บริเวณที่ทำ Ulthera
  • ไม่ควรไปฉีดหรือทำหัตถการอื่นๆบริเวณใบหน้าเพิ่มเติม เช่น การทำทรีทเมนท์ เลเซอร์ 2-4 สัปดาห์หลังทำ Ulthera
  • หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด หรือกิจกรรมที่อาจส่งผลต่อการไหลเวียนของโลหิต เช่น สปา ซาวน่า อบไอน้ำ แช่น้ำร้อน เป็นต้น
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ เนื่องจากเป็นการทำให้คอลาเจนในผิวถูกทำลายได้ 

ขั้นตอนการทำ ULTHERA

การทำ Ultherapy จะใช้เวลาเพียงไม่นาน โดยใช้เวลาประมาณไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อย โดยมีขั้นตอนการทำดังนี้ค่ะ

  • เข้ารับการตรวจ ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง เพื่อตรวจประเมินใบหน้า สภาพผิว ตำแหน่งที่ต้องการแก้ไขด้วย Ulthera เพื่อวางแผนการรักษา และแจ้งการรักษาก่อนลงมือทำ
  • เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดใบหน้าบริเวณผิวที่ต้องการทำ และทายาชาในบริเวณที่ต้องการทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง
  • แพทย์ที่จะลงมือทำ Ultherapy จะวาดโครงสร้างแบบที่ต้องการด้วยดินสอลงบนผิวของผู้รับบริการ เพื่อให้ดูความเปลี่ยนแปลงก่อนทำ
  • แพทย์จะเริ่มทำการปล่อยพลังงานจากเครื่อง Ulthera ตามแผนรักษาที่วางไว้ โดยเริ่มจากระดับอ่อน ๆ หากผู้รับบริการสามารถรับได้จะค่อย ๆ ปรับพลังงานให้มากขึ้นตามระดับ
  • เมื่อทำการทำครบทุกส่วนแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการทำความสะอาดผิวหน้าหรือผิวบริเวณที่ทำให้อีกรอบ
  • หลังทำสามารถเห็นผลลัพธ์ถึงการเปลี่ยนแปลงได้ 30% และจะชัดเจนยิ่งขึ้นในอีก 2-3 เดือนหลังทำ 

การทำ Ulthera จะใช้เวลาเพียงไม่นาน โดยใช้เวลาประมาณไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง

ทำ Ulthera ที่ไหนดี

การทำ  Ultherapy เป็นหัตถการที่ทำแล้วสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำ และหลังจากทำอีก 2-3 เดือนจะยิ่งเห็นผลลัพธ์ได้ดีที่สุด ตอบโจทย์กับผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้ากระชับแบบห็นผลไว เทียบเท่าการผ่าตัดยกกระชับ แต่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น คลินิกของเราตอบโจทย์ได้ทุกปัญหา ที่มีทั้งทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญการ และเจ้าหน้าที่ ที่คอยอำนวยความสะดวกอย่างดี และรวมไปถึงการดูแลตั้งแต่ก่อน และหลังทำ สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

รีวิวการยกกระชับด้วยการทำ  Ultherapy

บทความที่คล้ายกัน

Radiesse Plus ช่วยอะไรได้บ้าง รีวิวก่อนและหลังฉีด Radiesse Plus

Radiesse Plus ช่วยอะไรได้บ้าง รีวิวก่อนและหลังฉีด Radiesse Plus

สมัยนี้อยากมีใบหน้าหน้าคมอยากมีใบหน้าเรียว โดยไม่ต้องพึ่งฟิลเลอร์ ก็สามารถทำได้แล้ว ด้วยนวัตกรรมสารเติมเต็มที่ให้ได้มากกว่าฟิลเลอร์ทั่วไปอย่าง Radiesse Plus ที่สามารถช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ผิวเต่งตึง กระชับ ใบหน้าดูคม สร้างกรอบหน้าให้ดูมีมิติมากขึ้น ด้วยการฟื้นฟูตั้งแต่โครงสร้างจากภายในสู่ภายนอก จากการกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน ให้ผิวสามารถกลับมาดูเรียบเนียนอีกครั้ง และผลลัพธ์ยังสามารถอยู่ได้นานมากกว่า 1 ปี ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงนวัตกรรมสารเติมเต็มอย่างโปรแกรม Radiesse Plus ที่เป็นได้มากกว่าฟิลเลอร์ เป็นสุดยอดนวัตกรรมได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลก ดังนั้นเราได้รวบข้อมูล เพื่อนำมาคัดสรรเรื่องที่ควรต้องรู้ก่อนตัดสินใจฉีดโปรแกรมนี้มาไว้ในบทความนี้แล้วครับ  Radiesse

เจาะลึก รีวิว ข้อดี ข้อเสีย ของ Radiesse และ Radiesse Plus ก่อนฉีด

เจาะลึก รีวิว ข้อดี ข้อเสีย ของ Radiesse และ Radiesse Plus ก่อนฉีด

อีกหนึ่งสิ่งที่สายงานผิวไม่ควรพลาดอย่าง Radiesse นวัตกรรมที่ช่วยให้ผิวสวย เต่งตึง ผิวดูอิ่มฟูด้วยคอลลาเจนจากภายในสู่ภายนอกอีกครั้งอย่างมีคุณภาพ นอกจากสายงานผิวแล้วหลายคนมักมีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด ทั้งที่เพิ่งจะอายุ 20 ต้น ๆ และคนอีกบางกลุ่มมักมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด เนื่องจากอายุเยอะ โดยการใช้ Radiesse เพื่อเข้ามาแก้ปัญหานี้ที่มีข้อบ่งชี้ (Indication) เพื่อการยกกระชับ (Lifting) และสร้างกรอบหน้า (Contour) ดังนั้นเพื่อเคลียร์ข้อข้องใจที่หลายคนสงสัยกันระหว่าง Radiesse และ Radiesse

Radiesse VS HA Filler เจาะลึก Radiesse เปรียบเทียบ Radiesse ต่างจากฟิลเลอร์อย่างไร

Radiesse VS HA Filler เจาะลึก Radiesse เปรียบเทียบ Radiesse ต่างจากฟิลเลอร์อย่างไร

เมื่อก้าวเข้าสู่อายุ 30 ร่างกายเริ่มมีการสูญเสียคอลลาเจนลงไปประมาณปีละ 1-2% และด้วยการผลิตคอลลาเจนที่ลดลงนี้ ส่งผลให้เจอกับปัญหาใบหน้าหน้าดูตอบ หน้าดูโทรม ไม่เรียบ กรอบหน้าไม่ชัด ไม่เต่งตึงเหมือนเมื่อก่อน ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องรู้จักกับนวัตกรรมที่ช่วยให้ผิวสวย เต่งตึง ผิวดูอิ่มฟูคอลลาเจนด้วย Radiesse ที่เข้ามาช่วยสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ ฟื้นฟูให้โครงสร้างผิวแข็งแรง ดังนั้นเราจะพามาเจาะลึก Radiesse เปรียบเทียบ Radiesse VS HA Filler ต่างจากฟิลเลอร์อย่างไรในบทความนี้กันครับ Radiesse

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save